
กรมทางหลวงชนบท ชวนใช้ถนนสายรอง เลี่ยงถนนสายหลัก บรรเทาปริมาณการจราจร อำนวยความสะดวก ปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม”
แนะ 5 เส้นทางเลี่ยงช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดแผนอำนวยความสะดวก และปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
ทั้งนี้ ทช. ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบถนนสายรอง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย และบรรเทาปริมาณการจราจรบนถนนสายหลักที่คาดว่าจะมีผู้ใช้ในการสัญจรกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงขอแนะนำเส้นทางเลี่ยงให้กับประชาชน จำนวน 5 เส้นทาง เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้วางแผนก่อนการเดินทาง ดังนี้

สรุปข่าว
เส้นทางเลี่ยงการจราจรถนนกัลปพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนนครอินทร์
เส้นทางเลี่ยงไปยังภาคใต้
- ต้นทาง กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง, กรุงเทพใต้ อาทิ เขตพระนคร พญาไท ดินแดง บางรัก สาทร คลองเตย เริ่มจาก (จุดที่ 1) ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสะพานตากสิน มุ่งหน้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย กท.1001 (ถนนกัลปพฤกษ์) เพื่อเดินทางต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษก (จุดที่ 2) ต่อไป
- ต้นทาง กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ อาทิ จตุจักร บางเขน ดอนเมือง เริ่มจากแยกเกษตร (จุดที่ 4) เลี้ยวซ้ายแยกแคราย ข้ามสะพานพระราม 5 เลี้ยวซ้าย (จุดที่ 3) เข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) เพื่อเดินทางต่อไปยังถนนกาญจนาภิเษกต่อไป
เส้นทางเลี่ยงไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ต้นทาง กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง, กรุงเทพใต้ เริ่มจาก (จุดที่ 1) ข้ามสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสะพานตากสิน จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) เดินทางต่อบนสายทาง เพื่อมุ่งหน้าสู่ ทล.346 (จุดที่ 7) ต่อไป
- ต้นทาง กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ เริ่มจากวงเวียนบางเขน (จุดที่ 5) ใช้ ทล.304 ถนนแจ้งวัฒนะ จากนั้นเดินทางต่อจนถึงสะพานพระราม 4 ข้ามสะพานพระราม 4 แล้วใช้ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3030 (ถนนชัยพฤกษ์) จากนั้นเลี้ยวขวาแยกวงแหวนราชพฤกษ์ – ชัยพฤกษ์ (จุดที่ 6) เพื่อใช้ถนนทางหลวงชนบทสาย นบ.3021 (ถนนราชพฤกษ์) มุ่งหน้าสู่ ทล.346 (จุดที่ 7) ต่อไป
เส้นทางเลี่ยงการจราจรกรุงเทพมหานคร
- เส้นทางเลี่ยงจากเขตหนองจอก (กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก) สู่ ทล.1 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เริ่มต้นจากสี่แยกเขตหนองจอก (จุดที่ 2) เลี้ยวขวาไปจนถึงถนนทางหลวงชนบทสาย ปท.3035 ขับต่อไปอีก 25.4 กิโลเมตร (ตัดกับ ทล.305) (จุดที่ 3) เพื่อเดินทางต่อไปยังถนนทางหลวงชนบทสาย ปท.3026 อีก 33 กิโลเมตร จะไปถึง ทล.1 (ถนนพหลโยธิน) อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี (จุดที่ 4)
เส้นทางเลี่ยงการจราจรตัวเมืองนครสวรรค์
- เส้นทางเลี่ยงตัวเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ใช้เส้นทางเลี่ยงฝั่งตะวันตก แยกออกไปตาม ทล.333 ผ่านอำเภอเมืองอุทัย จังหวัดอุทัยธานี (จุดที่ 2) ต่อเนื่องไปยัง ทล.3221 ผ่านอำเภอทัพทัน (จุดที่ 3) ทล.3013 (จุดที่ 4) ผ่านอำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอลาดยาว (จุดที่ 4) ก่อนเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นว.1001 เพื่อเชื่อมต่อไปยัง ทล.1 (จุดที่ 5) ก่อนเดินทางสู่จังหวัดกำแพงเพชรต่อไป
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดนครราชสีมา
- เส้นทางเลี่ยง ทล.2 (ถนนมิตรภาพ) เริ่มจาก (จุดที่ 1) ทล.2 กม.ที่ 102+135 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ทล.201 (จุดที่ 2) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 41 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 41+000 เลี้ยวขวาเข้าสู่ ทล.2148 (จุดที่ 3) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 3.4 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 3+400 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย นม.4008 (จุดที่ 4) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 23.1 กิโลเมตร จะบรรจบกับ ทล.2369 (จุดที่ 5) เดินทางต่อเป็นระยะทาง 30.8 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 30+800 (จุดที่ 6) เข้าสู่ ทล.2246 เดินทางต่อเป็นระยะทาง 65.5 กิโลเมตร จะบรรจบกับ ทล.2 กม.ที่ 257+65 แล้วเลี้ยวซ้าย (จุดที่ 7) เพื่อเดินทางมุ่งสู่จังหวัดขอนแก่น
เส้นทางเลี่ยงการจราจรจังหวัดสมุทรสงคราม – จังหวัดเพชรบุรี
- เส้นทางเลี่ยง ทล.4 (ถนนเพชรเกษม) เริ่มจาก ทล.35 กม.ที่ 73+070 (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนทางหลวงชนบทสาย สส.2021 เดินทางเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย ตามเส้นทางไทยแลนด์ริเวียร่า (Thailand Riviera) ระยะทางประมาณ 76 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่ ทล.4 กม.ที่ 169+070 มุ่งสู่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี (จุดที่ 2) ต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนศึกษาเส้นทางและวางแผนก่อนออกเดินทาง ใช้รถใช้ถนนอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยสามารถศึกษาเส้นทางเลี่ยงสายอื่นเพิ่มเติมได้ทาง Facebook กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม และเว็บไซต์ https://drr.go.th/
สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน ทช. 1146
ที่มาข้อมูล : กรมทางหลวงชนบท
ที่มารูปภาพ : TNN ONLINE

ศิริพร บุญเถื่อน