ผลโพลชี้คนไทยหวั่นภัยแผ่นดินไหว หนุนรัฐพัฒนาระบบเตือนภัยแม่นยำ

สวนดุสิตโพลเผย คนไทยห่วงแผ่นดินไหวหลังเหตุการณ์ 28 มี.ค. หนุนรัฐเร่งยกระดับระบบเตือนภัยให้เข้าถึง-เชื่อถือได้ พร้อมดันเป็นวาระแห่งชาติ

คนไทยกังวลภัยแผ่นดินไหว ผลโพลสวนดุสิตเสนอรัฐเร่งพัฒนาระบบเตือนภัย

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนทางกายภาพ แต่ยังส่งผลสะเทือนถึงความรู้สึกของประชาชนทั่วประเทศ ล่าสุด สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ “คนไทยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว” สะท้อนความตื่นตัวและความคาดหวังของสังคมไทยต่อบทบาทของภาครัฐในการป้องกันและรับมือกับภัยพิบัติที่ไม่อาจคาดเดาได้ล่วงหน้า

ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,239 คนทั่วประเทศ ที่สุ่มสำรวจทั้งทางออนไลน์และภาคสนาม ระหว่างวันที่ 1–4 เมษายน 2568 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแผ่นดินไหวผ่าน สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก เอ๊กซ์ (Twitter เดิม) ติ๊กต็อก ยูทูบ หรือแอปพลิเคชันไลน์ ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่ามีความกังวลต่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แม้ประชาชนจะมีความสนใจในข่าวสารมากขึ้น แต่ก็พบว่าข้อมูลจากทางราชการมักล่าช้า ขัดกับความรวดเร็วของโซเชียลมีเดีย ซึ่งแม้จะเข้าถึงง่ายแต่ก็มีความเสี่ยงจากข่าวปลอมที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

ผลโพลชี้คนไทยหวั่นภัยแผ่นดินไหว หนุนรัฐพัฒนาระบบเตือนภัยแม่นยำ

สรุปข่าว

สวนดุสิตโพลเผย คนไทยกังวลแผ่นดินไหวหลังเหตุ 28 มี.ค. ติดตามข่าวผ่านโซเชียลมากที่สุด หนุนรัฐเร่งพัฒนาระบบเตือนภัยที่แม่นยำ เข้าถึงได้ และเสนอให้ภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ

ความต้องการหลัก “ระบบเตือนภัยที่แม่นยำ-เข้าถึงได้”

เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากภาครัฐ พบว่า อันดับแรกคือ “การพัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติที่แม่นยำ ฉับไว และเชื่อถือได้” รองลงมาคือ “การยกระดับภัยพิบัติให้เป็นวาระแห่งชาติ” เพื่อขับเคลื่อนการจัดการภัยพิบัติอย่างเป็นระบบและจริงจัง

น.ส.พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล กล่าวว่า “ผลโพลครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าสังคมไทยตื่นตัวกับภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าข้อมูลจากรัฐยังเข้าถึงประชาชนไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันสื่อออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข่าวลวง เราจึงอยากเรียกร้องให้รัฐจัดลำดับความสำคัญให้กับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ให้บทเรียนภัยซ้ำซากกลายเป็นเพียงแค่ข่าวในวันหนึ่ง แล้วก็ถูกลืมไป”

เธอยังย้ำว่า รัฐต้องพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนชรา หรือผู้พิการ พร้อมใช้เทคโนโลยีสื่อสารยุคใหม่ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

แผ่นดินไหว จากเรื่องไกลตัว สู่ปัญหาความมั่นคงของสังคม

ขณะที่ นายมณฑล สุวรรณประภา อาจารย์ประจำหลักสูตรอนามัยสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ให้ความเห็นว่า เหตุแผ่นดินไหวที่ผ่านมาทำให้คนไทยรับรู้ว่าภัยพิบัติไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

“แผ่นดินไหวไม่เคยเป็นประเด็นหลักของประเทศไทย แต่ผลโพลสะท้อนว่าคนไทยเริ่มกลัวภัยที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ และหันมาใส่ใจข่าวภัยพิบัติมากขึ้น แต่รัฐยังไม่มีช่องทางการสื่อสารที่ประชาชนไว้วางใจได้พอ จำเป็นต้องพัฒนาระบบสื่อสารใหม่ให้เข้ากับพฤติกรรมคนยุคดิจิทัล”

นายมณฑลเน้นว่า ภาครัฐควรถือโอกาสนี้ผลักดันการจัดการภัยพิบัติให้เป็น วาระแห่งชาติ โดยต้องบูรณาการการทำงานทั้งเชิงนโยบายและภาคปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน การจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อภัย ไปจนถึงการส่งเสริมศักยภาพของชุมชนให้สามารถรับมือภัยได้ด้วยตนเอง

“หากทำได้ จะช่วยลดความเปราะบางของสังคมไทย และเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับภัยพิบัติที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต” เขากล่าวทิ้งท้าย

ที่มาข้อมูล : TNN

ที่มารูปภาพ : TNN / Freepik

avatar

ยศไกร รัตนบรรเทิง
เบน

บรรณาธิการออนไลน์