ผลสำรวจพบวัยรุ่นสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึง 38% ชี้เข้าถึงง่ายในชุมชน

วันที่ 2 เมษายน 2568 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับครอบครัวปลอดบุหรี่ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) เครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยง มูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว และกลุ่มไม้ขีดไฟ จัดกิจกรรมรณรงค์ในเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “บุหรี่ไฟฟ้ามันร้าย” พร้อมเวทีเสวนา “สงกรานต์นี้เลิอกเถอะ…หยุดเอาควันบุหรี่ไฟฟ้าไปฝากคนที่บ้าน” โดยมีการแสดงเจตนารมณ์ร่วมต้านพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า

นายธนภัทร แสงหิรัญ ผู้ประสานงาน ขสย. ภาคอีสาน เปิดเผยผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,435 คนใน 12 พื้นที่ชุมชนทั่วประเทศเมื่อเดือนตุลาคม 2567 พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 10–20 ปี โดย 86.3% รู้จักบุหรี่ไฟฟ้า 38.3% มีพฤติกรรมสูบ และ 53% ระบุว่ามีคนรอบข้างสูบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติ พ่อแม่ ครู หรือบุคคลที่เคารพ

ที่น่ากังวลคือ กลุ่มตัวอย่างกว่า 51.7% ระบุว่ารู้แหล่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าในชุมชน และ 91.3% เห็นว่าเด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้โดยง่าย อีกทั้ง 47.9% มองว่าเป็นปัญหาต่อชุมชนอย่างมาก

นายธนภัทรกล่าวอีกว่า เด็กและเยาวชนได้รับอิทธิพลจากคนรอบข้างทั้งครอบครัวและเพื่อนอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเสนอให้ใช้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูลจากแพทย์และหน่วยงานที่เชื่อถือได้เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมเตรียมเก็บข้อมูลอีกครั้งหลังรัฐบาลมีนโยบายปราบปรามอย่างเข้มข้น

ด้านนายทรงพล จิรอัศวแก้ว อาชีพไรเดอร์ เล่าประสบการณ์ตรงว่า สูบบุหรี่ไฟฟ้ามา 3 ปีเพราะราคาถูก แต่กลับต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ลามถึงกระเพาะและอัณฑะ แพทย์ระบุบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในปัจจัยก่อโรค

“ผมเคยคิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่อันตราย สูบแล้วเอาควันไปอยู่ในบ้านโดยไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายคนในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ตอนนี้พยายามเลิกให้เด็ดขาด อยากให้ช่วงสงกรานต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเลิกบุหรี่ เพราะเมื่อสูบไปแล้วป่วยขึ้นมา มันไม่คุ้มกับสุขภาพเลยจริงๆ” นายทรงพลกล่าวทิ้งท้าย