
กกพ. มีมติคงค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. 68 ที่ 36.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยยังอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย พร้อมชวนประชาชนร่วมประหยัดไฟในช่วงหน้าร้อน

สรุปข่าว
กกพ. คงค่าเอฟที 36.72 สตางค์ต่อหน่วย ค่าไฟเฉลี่ยเท่าเดิมถึงสิงหาคม 68
สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ครั้งที่ 12/2568 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 โดยมีมติเห็นชอบให้คงค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) สำหรับงวดเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม 2568 ที่ 36.72 สตางค์ต่อหน่วย
ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. ระบุว่า การตรึงค่าเอฟทีดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเสนอของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ยังคงเฉลี่ยที่ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยคิดจากค่าไฟฟ้าฐาน 3.78 บาทบวกกับค่าเอฟทีที่ตรึงไว้
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการคำนวณค่าเอฟทีผ่านเว็บไซต์ระหว่างวันที่ 11–24 มีนาคม 2568 โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นรวมทั้งสิ้น 33 รายการ ผลสรุปความคิดเห็นมีดังนี้
- - เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 3 (ค่าเอฟที 36.72 สตางค์/หน่วย) ร้อยละ 49
- - เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 1 (137.39 สตางค์/หน่วย) ร้อยละ 21
- - เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ 2 (116.37 สตางค์/หน่วย) ร้อยละ 18
- - เสนอค่าเอฟทีนอกเหนือกรณีศึกษา ร้อยละ 9
- - เป็นข้อซักถามหรือความคิดเห็นอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับค่าเอฟที ร้อยละ 3
กกพ. ยังกล่าวถึงสถานการณ์ฤดูร้อนในปีนี้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม โดยแนะให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานด้วยหลัก “5 ป.” ได้แก่
1. ปลด – ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อเลิกใช้งาน
2. ปิด – ดับไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน
3. ปรับ – อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศา
4. เปลี่ยน – ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานเบอร์ 5
5. ปลูก – ต้นไม้เพิ่มเพื่อช่วยลดอุณหภูมิในบ้าน
มาตรการเหล่านี้จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อน ขณะที่อัตราค่าไฟเฉลี่ยที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงถือเป็นการช่วยประคองภาระค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว

ยศไกร รัตนบรรเทิง
เบน