
นายนัฐวุฒิ แดนดี รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาฝ่ายวิชาการ และโฆษกกรม อุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 6-8 มีนาคม 2568 จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก เนื่องจากมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น มีลักษณะของพายุฝน ฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บ่อยและรุนแรงในบางพื้นที่
โดย ระบุว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา (1-3 มีนาคม) อุณหภูมิของประเทศไทยขยับขึ้นไปสูงสุดถึง 40 องศา และในบางช่วงก็ มวลอากาศเย็นมีกำลังแรง จากสภาพอากาศที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน จึงทำให้เกิดการสภาพอากาศแปรปรวนและเกิดเป็นพายุฤดูร้อนในระยะสั้นๆ มีลมกระโชกแรง และในช่วง 6-8 มีนาคมนี้ มวลอากาศเย็น กำลังปานกลางจะเข้าปกคลุมประเทศไทยอีกรอบ ทำให้เกิดพายุร้อนใน ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล โดพายุฤดูร้อนจะเข้าประทะ ภาคตะวันออก ก่อน ส่วนพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลจะเจออิทธิพลในช่วงวันที่ 7 มีนาคม
โฆษกกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า สิ่งที่ควรระวังเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อน ขอให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรือที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง
ขณะสภาพอากาศฤดูร้อนในปี คาดว่าอุณหภูมิแตะ 43 องศา โดยเกิดขึ้นส่วนใหญ่ในพื้นที่ตอนบนและตอนกลางของประเทศ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัยอุตรดิตถ์ ชัยภูมิ เพชรบูรณ์ โดยระบุว่าฤดูร้อนปีนี้สั้นและอากาศร้อนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

สรุปข่าว

Khwanhathai Malakan
(Khwanhathai Malakan)