กวาดล้างเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงิน ยึดทรัพย์ 50 ล้าน

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วยผู้แทนจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงผลการกวาดล้างเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงิน พร้อมยึดของกลาง ตู้เติมเงินเคธี่ปันสุข กระเป๋าแบรนด์เนม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร รถยนต์ และของกลางอีกหลายรายการมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท 

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ เปิดเผยแผนประทุษกรรมของขบวนการแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงินเคลื่อนที่ ว่า ผู้ต้องหาจะชักชวนให้คนมาร่วมลงทุนติดตั้งตู้เติมเงิน ที่อวดอ้างว่าตู้เติมเงินสามารถใช้จ่ายเงินได้เกือบทุกอย่าง  ทั้งค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่เมื่อร่วมลงทุนกลับใช้งานไม่ได้จริง บางคนร่วมลงทุนจ่ายเงินไปแต่กลับไม่ได้ตู้มา โดยใช้วิธีจูงใจว่า หากลงทุน 5 หมื่นบาท จะได้ผลตอบแทนสูงสุด 1.5 แสนบาท ภายในระยะเวลา 500 วัน และหากสมาชิกสามารถชักชวนหาคนมาร่วมลงทุนเพิ่มจะได้ส่วนแบ่งสูงสุดร้อยละ 50 ของค่าสมัคร โดยช่วงแรกที่ลงทุนจะได้รับเงินจริง แต่ระยะหลังกลับไม่ได้ค่าตอบแทน ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 27 ล้านบาท 

ด้านนางสาวพูลศิริ นิลกิจศรานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า บริษัทเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ตู้เติมเงิน ได้จดทะเบียนรับอนุญาตประกอบกิจการเพื่อให้บริการขายต่อบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน ในนามซิมการ์ด K4 (เคโฟร์) และได้ประกอบธุรกิจตู้เติมเงินเพื่อให้บริการเติมเงินค่าโทรศัพท์ค่าย K4 ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งธุรกิจส่วนของการให้บริการตู้เติมเงินนั้นไม่ถือเป็นบริการโทรคมนาคมที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของ กสทช.และมีพฤติกรรมทำธุรกิจแบบเครือข่าย จึงเตรียมจะถอนใบอนุญาตผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคม เพราะดำเนินธุรกิจผิดเงื่อนไขการอนุญาต