โพลเผยปชช. 84.1% หนุนรัฐตัดไฟฟ้าสกัดอาชญากรข้ามชาติ

ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่ สนับสนุนมาตรการตัดไฟ หวังลดอิทธิพลแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมแนะเสริมมาตรการกฎหมาย-เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านเศรษฐกิจชายแดนไทย-เมียนมาอาจได้รับผลดี

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักวิจัยซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในหัวข้อ “ประชาชนคิดอย่างไรต่อมาตรการตัดไฟประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ” โดยทำการเก็บข้อมูลจากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2568

โพลเผยปชช. 84.1% หนุนรัฐตัดไฟฟ้าสกัดอาชญากรข้ามชาติ

สรุปข่าว

ซูเปอร์โพลเผย ประชาชน 81.1% หนุนมาตรการตัดไฟ เพื่อกดดันแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ หวังลดอิทธิพลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเสริมความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา ขณะที่ 55.3% เชื่อว่ามาตรการนี้มีประสิทธิภาพ แต่ 52.8% เห็นว่าควรมีมาตรการเสริม เช่น กฎหมายเข้มงวด-เทคโนโลยีสกัดอาชญากรรมออนไลน์ นอกจากนี้ 43.9% สนับสนุนการตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อตรวจสอบการใช้ไฟในพื้นที่ต้องสงสัย ด้านซูเปอร์โพลแนะรัฐ บูรณาการหลายมาตรการ เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างยั่งยืน

ประชาชนส่วนใหญ่หนุนตัดไฟ หวังปราบแก๊งอาชญากรรม

ผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 81.1 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง กับมาตรการตัดไฟ เพื่อกดดันขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมองว่าจะช่วยลดการใช้โครงสร้างพื้นฐานของไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มผิดกฎหมาย ขณะที่มีเพียง ร้อยละ 18.9 ที่ไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ ประชาชนยังสนับสนุนแนวทาง การจัดระเบียบชายแดนของรัฐบาล หลังดำเนินการตัดไฟ โดยพบว่า ร้อยละ 85.7 เห็นด้วย และเพียง ร้อยละ 14.3 ไม่เห็นด้วย ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจของประชาชนต่อมาตรการด้านความมั่นคง

มาตรการตัดไฟมีประสิทธิภาพ แต่ควรเสริมแนวทางอื่น

ผลสำรวจยังชี้ว่า ร้อยละ 55.3 เชื่อว่าการตัดไฟจะส่งผลต่อการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยระบบไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 52.8 เห็นว่าควรมีมาตรการอื่น ๆ เสริม เช่น

- บังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น

- สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ

- ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อตรวจจับและทำลายเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์

ประชาชนหนุนตั้งหน่วยงานพิเศษ คุมการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่เสี่ยง

นอกจากนี้ ร้อยละ 43.9 เห็นด้วยกับการตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อตรวจสอบและควบคุมการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ต้องสงสัย ลดโอกาสที่กลุ่มอาชญากรรมจะใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ

ขณะที่ ร้อยละ 13.7 กังวลว่าการตัดไฟอาจกระทบประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจในพื้นที่ชายแดน แต่ถือเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ให้การสนับสนุน

เสนอแนวทางเสริม มุ่งลดอาชญากรรมข้ามชาติอย่างยั่งยืน

ซูเปอร์โพลยังเสนอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ได้แก่

- ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการตรวจจับและปราบปรามอาชญากรรม

- สร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อควบคุมเส้นทางเงินและทรัพย์สินของขบวนการอาชญากรรม

- ออกมาตรการทางกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น

- สร้างเอกภาพทางการเมืองเพื่อให้การแก้ปัญหามีประสิทธิภาพ

- ตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อตรวจสอบและดำเนินการตรงจุด

ทั้งนี้ มาตรการตัดไฟถือเป็นเพียงหนึ่งในแนวทางที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน แต่การดำเนินการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดยังต้องอาศัยมาตรการเสริมที่ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างยั่งยืน

ที่มาข้อมูล : ซูเปอร์โพล

ที่มารูปภาพ : PEA