โรคภูมิแพ้ ภัยเงียบสุขภาพคนไทย

ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ปี 2562 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้เพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่าเมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว สาเหตุหลักจากสภาพแวดล้อมมลพิษต่าง ๆ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบส่งผลให้สุขภาพอ่อนแอ โดยมีสถิติความชุกของโรคภูมิแพ้ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจในประเทศไทยพบว่า โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจส่วนบนคือ โรคจมูกอักเสบ อยู่ประมาณร้อยละ 30 ของประชากรเท่ากับ 20 ล้านคน และโรคภูมิแพ้ของทางเดินหายใจส่วนล่างคือ โรคหืด อีกประมาณ 4 ล้านคน ทำให้รัฐต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงเป็นเงินกว่า 2,400 ล้านบาทต่อปี

แต่โรคภูมิไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะระบบทางเดินหายใจเท่านั้น ยังมีโรคภูมิแพ้ที่เกิดกับระบบอื่นในร่างกายด้วย

โรคภูมิแพ้ : เป็นอาการที่ร่างกายตอบสนองไวต่อสารก่อภูมิแพ้มากกว่าปกติ เกิดความผิดปกติกับอวัยวะที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ อาหารบางชนิด หรือแม้แต่น้ำหอมและสารเคมี ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการและมีความรุนแรงไม่เท่ากัน


โรคภูมิแพ้ ภัยเงียบสุขภาพคนไทย

สรุปข่าว

โรคภูมิแพ้สามารถรักษาหายขาดได้ โดยผู้ที่มีอาการไม่มากรักษาด้วยการปรับพฤติกรรมร่วมกับการใช้ยาอย่างสม่ำเสมอ แต่ผู้ที่มีอาการรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน รักษาโดยการเปลี่ยนภูมิคุ้มกัน หรือ Immunotherapy ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

โดยทั่วไปสาเหตุของโรคภูมิแพ้มี 3 ปัจจัย คือ

1. พันธุกรรม : หากครอบครัวสายตรงมีประวัติเป็นภูมิแพ้ โอกาสที่บุตรหลานจะเป็นภูมิแพ้จะสูงถึงร้อยละ 50

2. สิ่งแวดล้อม : การอยู่ในสถานที่มีสารก่อภูมิแพ้บ่อย ๆ เพิ่มโอกาสเสี่ยงโรคภูมิแพ้

3. ภูมิคุ้มกันส่วนตัว : การพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ออกกำลังกาย กินอาหารไม่เหมาะสม เมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอจะมีความเสี่ยงเกิดโรคภูมิแพ้ได้


โรคภูมิแพ้เกิดขึ้นได้กับระบบต่าง ๆ ของร่างกาย แบ่งเป็นกลุ่ม ที่พบบ่อย ดังนี้

- ภูมิแพ้อากาศ พบในทุกช่วงวัย เกิดจากการสูดดมสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ทำให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนเกิดการอักเสบ จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีฝุ่นและมลพิษสูง

- ภูมิแพ้อาหาร เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อโปรตีนในอาหารบางชนิดผิดปกติ มักพบในเด็กและผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้ทางพันธุกรรม ดังนั้นก่อนบริโภคควรอ่านฉลากอาหารให้ละเอียด

- ภูมิแพ้ผิวหนัง : เกิดจากการสัมผัสสารระคายเคือง สารเคมี หรือฝุ่นละออง ทำให้ผิวหนังอักเสบ เป็นผื่นคันหรือลมพิษ จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง


โดยอาการของโรคภูมิแพ้ แสดงออกได้ในหลายรูปแบบ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล , ไอ จาม เจ็บคอ , ตาแดง คันตา น้ำตาไหล , ผดผื่นคัน ลมพิษ , รวมถึงอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง



การดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคภูมิแพ้ ทำได้โดย หลีกเลี่ยงสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ , หมั่นทำความสะอาดบ้าน เปลี่ยนเครื่องนอนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง , ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย , กินอาหารมีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์