สรุปข่าว
วันนี้ (1ส.ค.62) ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคเหนือภายใต้โครงการเฝ้าระวังสิ้นค้าบริการเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ สุ่มเก็บตัวอย่างน้ำพริกหนุ่มในพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 17 ตัวอย่าง ส่งตรวจวิเคราะห์หาปริมาณวัตถุกันเสียประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยสุ่มตรวจในครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2561 โดยผลทดสอบพบว่า มีน้ำพริกหนุ่ม 2 ยี่ห้อเท่านั้น ที่ตรวจไม่พบสารกันบูดพบ 8 ยี่ห้อ ที่ตรวจพบสารกันบูดประเภทกรดเบนโซอิก และกรดซอร์บิก แต่ไม่เกินมาตรฐาน หรือไม่เกิน 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
ส่วนที่เหลืออีก 7 ยี่ห้อ ตรวจพบปริมาณสารกันบูดมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเกินมาตรฐาน จากผลตรวจน้ำพริกหนุ่มในครั้งนี้ พบว่าร้อยละ 63 มีปริมาณสารกันบูดเกินมาตรฐาน
นางสาวมลฤดี โพธิ์อินทร์ นักวิชาการด้านอาหาร มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า จากผลทดสอบตัวอย่างน้ำพริกหนุ่ม พบสารกันบูดสูงถึง 5649 มิลิลกรัมต่อกิโลกรัม ในจังหวัดพะเยา ซึ่งเกินกว่าที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ถึง 11 เท่า ซึ่งนอกจากสินค้าของฝากอย่างน้ำพริกหนุ่ม โรตีสายไหม และแกงไตปลาแห้ง มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้เคยสุ่มตรวจสารกันบูดในขนมปังไส้ เฉาก๊วย และขนมจีน ส่วนใหญ่พบว่าผู้ประกอบการไม่ได้มีการแสดงฉลากให้ถูกต้องชัดเจน จึงอยากเสนอให้หน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแล ได้ออกกฎหมายข้อ กำหนด หรือบทลงโทษให้ผู้ประกอบการได้มีการจัดทำฉลากบนบรรจุภัณฑ์ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
ทางด้านเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้ฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงพื้นที่สุ่มตรวจคุณภาพของฝากร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อช่วยกันพัฒนาคุณภาพของฝากให้ได้มาตรฐาน ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของฝากภาคเหนือ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
ภาพจากเฟซบุ๊ก : นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ที่มาข้อมูล : -