เกิดอะไรขึ้นที่ซีเรีย ? เหตุใดกบฎโจมตีหนัก ? สรุปครบจบที่เดียว

กลุ่มกบฏซีเรีย ซึ่งรวมเอากลุ่มมุสลิมติดอาวุธต้านรัฐบาลซีเรียหลายกลุ่ม รุกเข้ายึดเมืองอะเลปโป ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งมีประชากรกว่า 2 ล้านคน ได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ธันวาคม) หลังการที่บุกแบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันพุธที่แล้ว

และตอนนี้กำลังพยายามบุกต่อไปที่เมืองฮามา ซึ่งรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัซซาด ครอบครองอยู่

ขณะที่กองทัพของซีเรีย ที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัสเซีย ได้ปฏิบัติการตอบโต้อย่างหนัก มีรายงานว่าโจมตีทางอากาศรุนแรงใส่จังหวัดอิดลิบ และอะเลปโป ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อหวังสกัดกั้นการรุกคืบของกลุ่มกบฏด้วย - เน้นไปที่การโจมตีกลังกระสุน และฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ

เป็นการต่อสู้ที่นำโดยกลุ่ม Hayat Tahrir al-Sham (HTS) หรือชื่อเดิมคือ al-Nusra Front ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของกลุ่มอัลกออิดะห์ ที่พยายามแยกตัวออกมา เพื่อเคลื่อนไหวและสร้างความแข็งแกร่งในตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย และเป็นกลุ่มที่ถูกจัดว่าเป็น “กลุ่มก่อการร้าย” โดยสหประชาชาติ สหรัฐฯ รวมถึง ซีเรีย และรัสเซีย ด้วย

เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝันนี้ จึงสร้างความเสี่ยงอย่างหนักต่อประชาชน ที่ต้องทนกับสภาพของสงครามกลางเมืองมายาวนานว่า 13 ปี ที่จะกระทบอย่างหนักต่อเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ที่มันร้อนแรงอยู่แล้ว ให้หนักขึ้นไปอีก

ประธานาธิบดีอัล-อัซซาด ย้ำว่า จะสามารถเอาชนะกลุ่มต่อต้านได้ ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีหนักหน่วงขนาดไหน

ด้าน Syrian Observatory for Human Rights กลุ่มติดตามสงครามในอังกฤษ ระบุว่า รัสเซียได้โจมตีค่ายพักของคนพลัดถิ่นเมื่อวันอาทิตย์ คร่าชีวิตพลเรือนอย่างน้อย 8 ราย บาดเจ็บกว่า 50 คน

ย้อนรอยสงครามซีเรีย

สงครามกลางเมืองในซีเรีย เริ่มต้นพร้อม ๆ กับเหตุการณ์อาหรับสปริง เมื่อปี 2011 เมื่อกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยออกมาเดินตามถนน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัซซาด ออกจากตำแแหน่ง หลังจากที่ปกครองประเทศมานานหลายสิบปี

ก่อนที่กองกำลังของอัซซาด จะปะทะกับกลุ่มผู้กระท้วง ตามมาด้วยการที่กลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านเริ่มรวมตัวกันมากขึ้น จนนำมาสู่การสู้รบกันหนักหน่วงระหว่างรัฐบาล และกองทัพซีเรีย กับกลุ่มกบฏต่อต้าน มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 500,000 คน

กลุ่มติดอาวุธหลาย ๆ กลุ่ม แม้จะมาจากแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกันคือ ล้มล้างประธานาธิบดีอัล-อัซซาด เช่น กลุ่ม อัลกออิดะห์ หรือ ISIS ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทเมื่อปี 2014 และสามารถครอบครองได้หลายพื้นที่ของประเทศ จนทำให้เกิดความกังวลว่าซีเรีย อาจกลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มก่อการร้าย ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตรเริ่มเข้ามามีบทบาทในซีเรีย เพื่อหวังกำจัดกลุ่มเหล่านี้ออกไป

อีกทั้งสงครามกลางเมืองในซีเรีย ก็้ยังทำให้เกิดคนพลัดถิ่นที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย และคนกว่า 6.8 ล้านคน หนีออกจากประเทศจากภัยสงคราม

ก่อนที่ในปี 2020 ความร้อนแรงของสงครามกลางเมืองก็เบาบางลง โดยที่รัสเซีย และตุรกี เห็นพ้องที่จะหยุดยิง ในจังหวัดหลัก ๆ อย่าง อิดลิบ - ไม่มีการสู้รบอย่างหนัก - โดยกลุ่มกบฏส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่จำกัด อย่างในจังหวัดอิดลิบ

ทำไมการต่อสู้ถึงปะทุขึ้นอีกในเวลานี้?

ตอนนี้ รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของปธน.อัซซาด กำลังเผชิญกับสงครามของตัวเองในยูเครน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้กลุ่มกบฏสบช่อง เห็นว่าเป็นโอกาสที่กองทัพซีเรียจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย เริ่มจู่โจมอย่างหนักทันที

นักวิเคราะห์มองว่า นักรบฝ่ายต่อต้าน ได้จัดทัพใหม่, ติดอาวุธใหม่ และฝึกซ้อมใหม่ ๆ มานานหลายปี เพื่อเตรียมการโจมตีกองกำลังของรัฐบาล และการรวมกลุ่มกันอีกครั้งใน “ห้วงเวลานี้” ก็เป็นช่วงเวลากับที่ รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของปธน.อัล-อัซซาด กำลังเผชิญกับสงครามของตัวเองในยูเครน

เช่นเดียวกับกลุ่ม ฮิซบอลเลาะห์ และอิหร่าน ซึ่งก็สนับสนุนปธน.อัล-อัซซาด ก็เริ่มอ่อนแอลงด้วยเช่นกัน จากความขัดแย้งกับอิสราเอลที่ดำเนินอยู่

—————

ภาพ: Reuters

อ้างอิง: https://www.washingtonpost.com/world/2024/12/01/syria-civil-war-assad-rebels-aleppo/

https://edition.cnn.com/2024/11/30/middleeast/syrian-civil-war-reignited-explainer-intl/index.html