‘มรสุมเอเชียใต้’ ภัยธรรมชาติ พร้อมคร่าชีวิตชาวปากีสถาน-อินเดีย ก๊าซเรือนกระจกทำให้มรสุมรุนแรงขึ้น
‘มรสุมเอเชียใต้’ ภัยธรรมชาติ พร้อมคร่าชีวิตชาวปากีสถาน-อินเดีย
จากเหตุน้ำท่วมในปากีสถานที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าหนึ่งพันคนแล้วนั้น ทำให้รัฐมนตรีกระทรวงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงของปากีสถาน อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า มาจากฝนมรสุมที่ตกอย่างต่อเนื่องติกกันแปดสัปดาห์ไม่มีหยุด
นี่เป็นเพียงหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปากีสถานเท่านั้น แต่ฤดูมรสุม ยังสำคัญและเป็นอันตรายต่อทั้งภูมิภาคเอเชียใต้ด้วย ซึ่งสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและผลกระทบอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากมนุษย์นั้น กำลังเปลี่ยนแปลงวิถีการหล่อเลี้ยงชีวิตในวงกว้าง และในขณะเดียวกัน กำลังกลายเป็นระบบอากาศทำลายล้างที่เกิดขึ้นประจำปีด้วย
---ฤดูมรสุมเอเชียใต้ คืออะไร?---
หน้ามรสุมฤดูร้อนของเอเชียหรือทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอเชีย คือ ลมทะเลขนาดมหึมา ที่ทำให้เกิดฝนตกประจำปีในแถบเอเชียใต้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน
เกิดขึ้นจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของพื้นดิน และพื้นน้ำ ในฤดูร้อนอุณหภูมิของดินภาคพื้นทวีป ร้อนกว่าน้ำในมหาสมุทร เป็นเหตุให้เกิดลมพัดในมหาสมุทรอินเดีย และนำมาซึ่งฝนในปริมาณมาก
---ฤดูมรสุมสำคัญอย่างไรต่อเอเชียใต้---
หน้ามรสุมปกติแล้วสำคัญต่อภาคการเกษตร และชีวิตของเกษตรกรหลายล้านชีวิต ตลอดจนความมั่นคงทางทหารของเอเชียใต้ ซึ่งมีประชากรราวสองพันล้านคน
อย่างไรก็ตาม มรสุมมักมาพร้อมกับการทำลายล้างเช่นกันในแต่ละปี จากน้ำท่วมใหญ่และดินถล่ม ขณะเดียวกันธารน้ำแข็งที่ละลายมากขึ้น ยิ่งไปเพิ่มปริมาณน้ำจากพายุฝน ประกอบกับ การปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ โดยมีไม่กฎเกณฑ์กำกับตามพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จึงทำให้เกิดความเสียหายมาก
นอกจากนี้ แม้มีการศึกษาเรื่องหน้ามรสุมกันมามาก แต่ค่อนข้างยากที่จะเข้าใจได้ถ่องแท้ เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ได้ว่า ฝนจะตกที่ไหนและเมื่อไหร่ได้อย่างแม่นยำ และการพยากรณ์อากาศยังทำได้แตกต่างกันไปอีกด้วย
เช่น ในปีนี้ ขณะที่ปากีสถานเผชิญฝนตกท่วมท้น แต่ทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย กลับมีปริมาณฝนในเดือนกรกฎาคมต่ำที่สุดในรอบ 122 ปี
ความผันผวนเหล่านี้ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในสภาพของดินฟ้าอากาศและมหาสมุทรของโลก เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญในมหาสมุทรแปซิฟิก และปรากฏการณ์ ผันผวนในมหาสมุทรอินเดียเขตศูนย์สูตร ซึ่งเพิ่งค้นพบในปี 2002 นี่เอง
ปัจจัยอื่น ๆ คาดว่า เกี่ยวข้องกับผลกระทบประจำท้องถิ่น เช่น ละอองอากาศ ฝุ่นที่พัดมาจากทะลทราบซาฮะรา มลพิษทางอากาศ ตลอดจนการทำชลประทานของเกษตรกร
---ก๊าซเรือนกระจกทำให้มรสุมรุนแรงมากขึ้น---
อินเดียนั้นร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญไซโคลนมากขึ้น แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ชัดว่าโลกที่ร้อนขึ้นส่งผลต่อฤดูมรสุมที่ซับซ้อนมากขึ้นนี้อย่างไร
ผลการศึกษาของสถาบันพ็อตส์ดัมเพื่อการวิจัยผลกระทบสภาพอากาศ ซึ่งติดตามการเปลี่ยนแปลงของฤดูมรสุมมาตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 พบว่า ฤดูมรสุมนั้นรุนแรงขึ้นและเอาแน่เอานอนไม่ได้มากขึ้น
ผลการศึกษายังพบว่า ละอองอากาศที่มีมลพิษส่งผลให้แสงแดดถูกฝนบดบัง และยังพบว่าตั้งแต่ปี 1980 ผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจกเริ่มทำให้ฤดูฝนรุนแรงและผันผวนมากขึ้น
---ปรากฏการณ์เหล่านี้หมายความอย่างไรต่อผู้คน?---
ฤดูมรสุมของอินเดียในปี 2021 เป็นตัวอย่างที่เห็นชัด ในเดือนมิถุนายน มีฝนมากกว่าปกติ แต่เดือนกรกฎาคมกลับน้อยลง และเกือบจะแห้งแล้งในเดือนสิงหาคม แต่ในเดือนกันยายน ฝนกลับตกหนักราวกับมาเอาคืน
โดยในเดือนกรกฎาคม มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในรัฐมหาราษฏระและเดือนกันยายนในรัชคุชราต ส่วนในเดือนตุลาคม ทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียกลับเผชิญภัยแล้ง แต่พื้นที่อื่น ๆ เผชิญหน้ามรสุมยาวกว่าปกติ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากฤดูมรสุมนั้น ทำให้ผู้คนยากที่จะปรับตัวใช้ชีวิตเข้ากันความไม่แน่นอนนี้ได้
—————
แปล-เรียบเรียง: ธันย์ชนก จงยศยิ่ง
ภาพ: Reuters