TNN ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ระบาดในพื้นที่น้ำท่วมของออสเตรเลีย

TNN

World

ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ระบาดในพื้นที่น้ำท่วมของออสเตรเลีย

ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ระบาดในพื้นที่น้ำท่วมของออสเตรเลีย

พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของออสเตรเลีย กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่นที่มียุงเป็นพาหะนำโรค ทำให้ต้องเร่งสั่งซื้อวัคซีนเพื่อป้องกันการระบาดขยายวงกว้าง

วันนี้ ( 12 มี.ค. 65 )ทางการออสเตรเลีย แถลงว่า กำลังสั่งซื้อวัคซีนพิเศษเพื่อป้องกันไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ซึ่งมียุงเป็นพาหะ และพบการระบาดเป็นครั้งแรกในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกที่ประสบภัยน้ำท่วม  โดยก่อนหน้านี้ ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น มีการระบาดอยู่ในทางตอนเหนือของเขตร้อน กระทั่งช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ได้ระบาดลงสู่พื้นที่ใต้สุดของเซาท์ ออสเตรเลีย  ขณะที่สาธารณสุขออสเตรเลีย รายงานพบผู้ติดเชื้อ 16 คน และมีผู้เสียชีวิต 2  ราย  

นักวิทยาศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า ฝนที่ตกหนักมากขึ้น ทำให้ยุงเพิ่มจำนวนชุกชุมในพื้นที่ภาคตะวันออกของออสเตรเลีย ขณะเดียวกันออสเตรเลีย ยังต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน ซึ่งหมายความว่าบรรยากาศจะมีความชื้นมากขึ้น


ไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ระบาดในพื้นที่น้ำท่วมของออสเตรเลีย

กระทรวงสาธารณสุขของออสแตรเลีย แถลงว่า ยังไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะสำหรับโรคนี้ ซึ่งติดเชื้อได้จากการถูกยุงกัดเท่านั้น จากข้อมูลพบว่า ผู้ติดเชื้อไม่ถึงร้อยละ 1 อาจมีอาการป่วยรุนแรง เป็นโรคไข้สมองอักเสบ ซึ่งเป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อสมอง อาการของโรค รวมทั้งคอแข็ง, ปวดศีรษะรุนแรงและโคม่า และ "อาการแทรกซ้อนทางระบบประสาทอย่างถาวรหรือเสียชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก"

ทั้งนี้รัฐบาลออสเตรเลีย จะลงทุนเป็นเงิน 69 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1,680 ล้านบาท สำหรับใช้ในมาตรการควบคุมโรค ซึ่งรวมถึงการจัดหาวัคซีนและปรับปรุงมาตรการเฝ้าระวังให้ดีขึ้น โดยวัคซีน “อิโมเจอีวี” (Imojev) ที่ผลิตโดยบริษัท ซาโนฟี-อเวนติส ออสเตรเลีย และวัคซีน เจอีสเปกต์ (JEspect) ที่ผลิตโดยบริษัทเซไครัส เป็นเป้าหมายนำมาฉีดให้คนที่ทำงานเสี่ยงะได้รับเชื้อนี้

ขณะนี้ หลายรัฐในออสเตรเลีย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ทั้ง รัฐนิวเซาท์เวลส์, วิกตอเรีย และเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งไม่เคยมีรายงานว่าพบการติดเชื้อในท้องถิ่นมาก่อน ส่วนรัฐควีนสแลนด์ ได้รับผลกระทบจากการระบาดด้วย โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้ว 1 คน

ภาพจาก : รอยเตอร์

ข่าวแนะนำ