บาทแชมป์แข็งโป๊ก ! นักลงทุนแห่เก็งกำไรเปิดประเทศ
"รุ่ง"มองเงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จับตา ราคาน้ำมันดิบ-บอนด์ยีลด์สหรัฐฯดีดตัวสูง เผยสถิติตั้งแต่ 1 ต.ค.-15 ต.ค.เงินบาทแชมป์แข็งค่าสุด รับข่าวเปิดประเทศเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้น-พันธบัตรไทยคึกคัก
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือราคาพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ หากสูงขึ้นต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยกดเงินบาทอ่อน
นอกจากนี้ต้องรอดูจีดีพีไตรมาส 3 ของจีน ถ้าดีกว่าคาดจะส่งให้เงินบาทแข็ง ส่วนของสหรัฐฯ มีการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดขายบ้าน หากตัวเลขสหรัฐฯดีจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-14 ต.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.06 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรไทยซื้อสุทธิ 4 พันล้านบาท เนื่องจากความหวังเรื่องการเปิดประเทศ และการพักฐานของดอลลาร์ในตลาดโลก
ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่1 ต.ค. -15 ต.ค.พบว่า บาท-ไทยแข็งค่ามากสุด 1.65 % รองลงมาคือรูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.58 % ริงกิต-มาเลเซีย 0.77% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.70% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.64% หยวน-จีน 0.17%
วอน-เกาหลีใต้ 0.09% ดอง-เวียดนาม 0.04% ยกเว้นรูปี-อินเดียอ่อนสุด 1.35% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.80% อย่างไรก็ตาม โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรับมือความผันผวน
"สาุเหตุที่เงินบาทแข็งเกิดจากความชัดเจนเรื่องการเปิดประเทศ และที่ผ่านมาเงินบาทอ่อนมาเยอะมาก นักลงทุนหาจังหวะขายดอลลาร์ทำกำไรช่วงสั้น เทรดตามโฟลว์ และกระแสข่าวโควิด, วัคซีน, เฟด ฯลฯ คาดว่าคงผันผวนขึ้นลงอีกหลายรอบ แต่ที่น่ากังวลคือราคาน้ำมันดิบขึ้นไม่หยุด"
ที่มา : น.ส. รุ่ง สงวนเรือง
ภาพประกอบ : พิกซาเบย์,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา