ส่งออกรับทรัพย์ ! เงินบาทอ่อน 7.05%

 

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบกรอบ 35.60-36.30  บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มผันผวนสูง หลังจากเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วจากกระแสเงินทุนไหลเข้าพันธบัตรเป็นผลมาจากข้อมูลเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสหรัฐฯซึ่งต่ำกว่าคาดทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและพื้นฐาน ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์

ขณะที่ตลาดมองว่าดอกเบี้ยปลายทางของธนาคารกลางสหรัฐ( เฟด) อาจไม่ถึง 5% โดยก่อนหน้านี้ตลาดถือสถานะซื้อดอลลาร์จากประเด็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเฟดค่อนข้างเต็มอิ่มแล้ว จึงเห็นการพลิกกลับอย่างรวดเร็วอนึ่ง เราคาดว่าเงินบาทน่าจะผ่านจุดอ่อนค่าที่สุดไปแล้วที่ 38.46  บาทต่อดอลลาร์ในเดือน ก.ย. และต.ค. 

อย่างไรก็ดี เรามองว่าอาจเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องด้วยตัวเลขเพียงเดือนเดียวและแม้เงินเฟ้อชะลอลงแต่ยังคงอยู่ในระดับสูง  นอกจากนี้ สกุลเงินภูมิภาคสัปดาห์นี้ยังได้แรงหนุนจากการที่จีนลดระดับความเข้มงวดต่อมาตรการคุมโควิดอีกทางหนึ่ง 

สัปดาห์หน้าติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ รวมถึงการประมูลตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นของไทยสำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคม.ค. - 11 พ.ย. พบว่า ดอลลาร์-ไต้หวันอ่อนค่ามากสุด 11.72 %   รองลงมาคือ เปโซ-ฟิลิปปินส์  10.98% หยวน-จีน 10.55% ริงกิต-มาเลเซีย  9.98%    วอน-เกาหลีใต้  9.85 %  

 ดอง-เวียดนาม  8.07% รูปี-อินเดีย 8%  รูเปียห์-อินโดนีเซีย 7.6%  บาท-ไทย 7.05%   ดอลลาร์-สิงคโปร์ 2.23%

ทั้งนี้ทุกสกุลเงินในภูมิภาคลดช่วงลบในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการทบทวนดอกเบี้ยเฟดหลังข้อมูลเงินเฟ้อต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ โดยเงินบาทลดการอ่อนค่าลงเหลือราว 7% นับจากสิ้นปี 64   อย่างไรก็ตาม  ปีนี้ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.76 แสนล้านบาท  และพันธบัตรไทย 4 หมื่นล้านบาท   

ที่มา น.ส. รุ่ง สงวนเรือง  

ภาพประกอบ   ธนาคารกรุงศรีอยุธยา