“ปราบต์ ปราบต์ปฎล” โล่งใจ เคลียร์ปมแชร์ลูกโซ่ Forex-3D พร้อมเผยความรู้สึกถึงภรรยา

“ปราบต์ ปราบต์ปฎล” เข้ามอบหลักฐานคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D กับ DSI แล้ว พร้อมเตือนชาวเน็ตถึงการคอมเมนต์เกินเหตุ ยันเชื่อใจในตัวภรรยา

ยังคงอยู่ในความสนใจของสังคม สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ "ปราบต์ ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง" กับปมแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ล่าสุด (20 พ.ย. 65) "ปราบต์" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันชัดเจนอีกครั้งในข้อสงสัยเรื่องการเคลื่อนย้ายรถหรู ที่ถือเป็นของกลางในคดีนี้

โดยเจ้าตัวยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องราวทั้งหมด และตนนั้นได้ชี้แจงเรื่องนี้อย่างละเอียดกับเจ้าหน้าที่แล้ว ส่วนกระแสข่าวที่ภรรยา "จิ๊กกี๋" ซ่อนสมบัตินั้น ตนเผยว่าคงต้องรอให้ภรรยามาตอบเองจะดีกว่า นอกจากนี้ยังได้เผยความรู้สึกถึงภรรยาที่ยังถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำ...

“ปราบต์ ปราบต์ปฎล” โล่งใจ เคลียร์ปมแชร์ลูกโซ่ Forex-3D พร้อมเผยความรู้สึกถึงภรรยา

ภาพจาก True Inside

"สื่อสามารถที่จะกำหนดชีวิตคนได้ แฟนๆ ทั่วประเทศได้รับรู้ผ่านข่าว คนทั่วไปเสพข่าวแล้วมีทั้งไม่เชื่อข่าว เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อีกกลุ่มคืออ่านแล้วเชื่อเลย 15 พ.ย. ที่ผ่านได้นำหลักฐานไปส่งทางดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว ถือว่าทำหน้าที่ของผมสมบูรณ์แล้ว ทั้งชีวิตมีแต่ทำงานการแสดง ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย ก็ไม่รู้ว่ากระบวนการใช้เวลานานเท่าไร ต้องอยู่ที่ดีเอสไอจะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวไม่มีความกังวลเลย เพราะมีหลักฐาน ข้อเท็จจริง ชี้แจงได้

ส่วนเรื่องคอมเมนต์ ถ้าใครไม่ได้ทำอะไรจนเกินไป ส่วนตัวไม่ค่อยชอบพูดหรือปะทะ บางคนก็หยุด แต่บางคนที่ไม่หยุดก็มี มีแคปไว้เพียบเลย แต่อ่านแล้วก็รู้สึกเห็นใจและสงสารกับการที่เขาไปนั่งเมนต์โดยที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง สุดท้ายความจริงก็คือความจริง

ภาพจาก True Inside

ผมไปเยี่ยมกี๋ทุกวัน น้องบอกผมว่าอย่าคิดอะไรมาก คิดแค่ว่าไปปฏิบัติธรรม สภาพผมแรกๆ น่าจะหนักกว่าเขา เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกๆ ว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวในลักษณะไหน ข้อผิดพลาดเดียวของเขาคือการเลือกคู่สมรส เขาเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะเป็นอดีตภรรยาแค่นั้นเอง มีหน้าที่ให้กำลังใจเขา

เรื่องรถ แค่เป็นคนขับ ชี้แจงว่าขับรถคันนั้นได้ยังไง ปัจจุบันเราเป็นสามีของกี๋ เขาก็มีสิทธิ์สงสัยเราแหละ หลายคนอยากให้เราออกมาพูดบ้าง อย่าปล่อยให้คนเขาเข้าใจผิด เพราะแฟนละครเขาก็ดูแค่ข่าว เราอาจจะใจเย็นไปนิดหนึ่ง

ข่าวภรรยาซ่อนสมบัติ อยากรอให้เขาออกมาพูดเอง เชื่อว่าอีกไม่นานหรอก ตอนนี้ก็ช่วยดูแลครอบครัวเขา และเขาที่อยู่ในนั้น ผมรู้ว่าเขาไม่มีอะไร มาด้วยสภาพบอบช้ำและย่ำแย่ ผมสามารถให้ความสุขเขาได้ นับวันรอทุกวันด้วยความหวังและตั้งใจ เชื่อมั่นในเวลาที่จะมาถึง รอวันที่เขาพิสูจน์ตัวเองและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่"