"น้าพวง เชิญยิ้ม" เปิดใจเกือบเดินไม่ได้ เพราะโรคประจำตัว!!
เปิดใจ “พวง เชิญยิ้ม” จากอดีตลิเกสู่ตลกดังเพลงฉ่อย เผยเกือบเดินไม่ได้ เพราะโรคประจำตัว!!!
จากอดีตลิเก สู่นักร้องเพลงฉ่อยชื่อดัง "พวง เชิญยิ้ม" ออกมาเล่าถึงความเป็นมาในครั้งอดีต เผยดีใจที่ทำให้คนรุ่นใหม่รู้จักเพลงฉ่อยมากขึ้น เพลงฉ่อยมีมาตั้งแต่โบราณ แต่ตอนนี้กำลังจะสูญหายไป เราก็มีโอกาสได้หยิบสิ่งเล็กๆน้อยๆมาปรับใช้ มาประยุกต์ร้องให้เข้ากับยุคสมัยนี้ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี เราก็รู้สึกภาคภูมิใจที่เราสามารถดึงเพลงพื้นบ้าน กลับมาได้รับความนิยม แล้วตอนนี้ทางคณะเพลงฉ่อย ครูบาอาจารย์เขาก็เริ่มมีงานกัน เราดีใจที่ได้มีส่วน ถึงแม้จะน้อยนิด แต่ก็ดีใจ
น้าพวงยังเล่าต่ออีกว่า "รู้จักกับน้าโย่งมาตั้งแต่อายุ 14-15 ตั้งแต่วัยรุ่นเลย รู้จักกันบนโรงลิเก น้าโย่งเขาเล่นอยู่ในคณะลิเกศักรินทร์ ดาวร้าย ส่วนเราไปตีตะโพน แต่พวกเราทั้ง 3 คน สนิทกันรักกันมาก ยอมได้ยอมเสีย ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย น้าโย่งเขาเป็นตัวโจ๊ก น้านงค์เป็นตัวโกง น้าพวงตอนแรกตีตะโพน แล้วก็ได้ขึ้นไปเล่นลิเกกับเขา ทีแรกก็เป็นตัวโจ๊กก่อน แล้วก็มาเป็นตัวเจ้า ก็เล่นอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
ไม่มีงานจ้าง ไม่มีงานบวชที่ต่างจังหวัด เราก็มาเล่นลิเกในกรุงเทพฯ น้าโย่งเขามาก่อน มาเล่นตลกเมื่อ พ.ศ. 2529 เขาก็ชักชวนเราเข้ามา ตอนนั้นเขาเล่นอยู่กับ ยาว อยุธยา เราก็ดีใจครับ สนุกดี เปลี่ยนมาเล่นตลก คือ คนละเรื่องเลย ถึงแม้เราจะเคยเล่นตัวโจ๊กมา แต่คนละอย่างกันเลย ตลกเขาต้องเล่นแบบธรรมชาติ เหมือนนั่งคุยกัน แต่เวลาลิเกเล่น จะต้องมีมาด เอาไปเล่นกับตลกไม่ได้ ไม่ธรรมชาติ
มาถึงเรื่องสุขภาพ ต่อสู้กับโรคเกาต์มาโดยตลอด ถ้าเรางดกินของแสลง เราก็จะไม่เป็น แต่ของแสลงดันเป็นของที่เราชอบ อย่างเช่น ผักแทบทุกอย่าง ห้ามกินหมดเลย ปลาที่ไม่มีเกล็ดก็กินไม่ได้ ปลาทะเลก็ไม่ได้ เครื่องในก็ไม่ได้ สัตว์ปีกก็ไม่ได้ ปลากินได้เฉพาะปลาที่มีเกล็ด เป็นโรคเกาต์ถึงขั้นเดินไม่ได้ จะเดินไปเมตรหนึ่ง ยังไม่ได้เลยครับ มันปวดมาก มันจะเป็นตามข้อ
ตอนนั้นรักษาตัวนาน เป็นทีก็ไปฉีดยาที ฉีดมากก็ไม่ดี ฉีดแล้วหายเลย แต่มันอันตรายตรงที่ ยาที่ฉีดไปมันมี สเตียรอยด์ มันทรมานมากกับโรคนี้ งานมีแต่ไปไม่ได้ จะไปเข้าห้องน้ำก็ยังลำบาก
ทำอาชีพเสริม ไปลงทุนทำห้องเช่ารายเดือน เราคิดว่าอยากจะมีอะไรที่สามารถส่งต่อให้ลูกให้หลานได้ เขาบอกว่าเป็นเจ้าของห้องเช่า เป็นเสือนอนกิน เราก็อยากจะเป็นแบบนั้น ก็เลยลองลงทุนทำไป 20 ห้องก่อน ก็รู้เลยว่า เราอยู่ได้ ถือว่าประสบความสำเร็จ
ตอนนี้อายุ 63 ปีแล้วครับ ทุกวันนี้ทำงาน ก็ทำเพื่อทุกคน เพื่อคนในครอบครัว มีแรงก็ทำไป อย่างภรรยาก็คบกันมา 35 ปีแล้ว ดีกรีนางเอกลิเกด้วย เล่นลิเกโรงเดียวกัน แล้วเราก็นั่งเขียนคิ้ว เราก็แอบหันกระจกไปมองเขา ครอบครัวใหญ่เลยครับ เราดูแลหมดเลย ทั้งลูกและครอบครัวของภรรยา เพราะน้าพวงพ่อแม่เสียแล้ว เราก็ดูแลครอบครัวเขา เหมือนกับครอบครัวของเรา บุพการีสูงที่สุด เสมือนพระในบ้าน...
ภาพจาก facebook : น้าพวง เชิญยิ้ม
ภาพจาก facebook : น้าพวง เชิญยิ้ม
ภาพจาก facebook : น้าพวง เชิญยิ้ม
ภาพจาก facebook : น้าพวง เชิญยิ้ม
ข้อมูล : รายการ Z Story Z Holiday