ไม่จริง! สภากาชาดไทย แจงปมฉีดวัคซีนโควิดบริจาคเลือดไม่ได้ เพราะเลือดดำคล้ำ
สภากาชาดไทย ชี้แจง กรณีมีการแชร์ว่าเลือดของผู้บริจาคที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีสีดำคล้ำ ไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ "ไม่เป็นความจริง"
วันนี้ (2 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ วิกฤติเริ่มขาดแคลนเลือด แต่เนื่องจากเลือดของผู้บริจาคที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีสีดำคล้ำ ไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้ ทำให้ผู้บริจาคโลหิตและประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและความกังวล ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลที่ต้องใช้โลหิตในการรักษาผู้ป่วย เป็นอย่างมาก นั้น
ล่าสุด รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ชี้แจงว่า ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยขอชี้แจง 2 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่ 1 เลือดของผู้บริจาคโลหิตที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 มีสีดำคล้ำ ไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้
"ไม่เป็นความจริง" ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อและร่างกายจะเปลี่ยนแปลงเป็นภูมิคุ้มกัน เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนชนิดอื่นๆ อาทิ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งไม่ทำให้สีของโลหิตมีสีดำคล้ำและเกิดการเปลี่ยนแปลงสีแต่อย่างใด เพราะโลหิตเป็นของเหลว “สีแดง” ที่ไหลเวียนอยู่ภายในหลอดเลือดทั่วร่างกาย
โดยฮีโมโกลบิล ทำหน้าที่ในการนำออกซิเจนจากปอดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย และนำคาร์บอนไดออกไซค์จากส่วนต่างๆ ของร่างกายไปขับออกที่ปอด ทำให้เม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดแดงมีระดับออกซิเจนปริมาณสูง เลือดจึงมีสีแดงสด
ส่วนเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดดำมีปริมาณออกซิเจนลดลงและมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซค์สูงกว่า เลือดจึงมีสีแดงคล้ำ เมื่อบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง เจ้าหน้าที่จะเจาะเก็บโลหิตจากข้อพับแขนที่เส้นเลือดดำ ทำให้โลหิตบริจาคมีสีแดงคล้ำกว่าเส้นเลือดจากหลอดเลือดแดง เป็นปกติทุกคน
ดังนั้น ผู้บริจาคโลหิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ทำให้โลหิตมีสีดำคล้ำ และไม่เป็นอันตรายต่อผู้รับโลหิต
ประเด็นที่ 2 ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นเลือดดี
"บิดเบือน" เพราะไม่ว่าผู้ที่ได้รับหรือยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าเลือดของบุคคลนั้นเป็นเลือดดีหรือไม่ดี เหตุผล เนื่องจากในการบริจาคโลหิตทุกครั้ง ผู้บริจาคโลหิตต้องคัดกรองสุขภาพด้วยตนเองจากแบบสอบถาม
และคัดกรองความเสี่ยงต่างๆ ที่สามารถถ่ายทอดทางโลหิตไปสู่ผู้ป่วยได้ จากบุคลากรทางการแพทย์ จากนั้นโลหิตทุกยูนิตจะถูกนำไปส่งตรวจคัดกรองคุณภาพโลหิตตามมาตรฐานทางห้องปฎิบัติการก่อนจ่ายให้กับโรงพยาบาล เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยต่อไป
ขณะที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ มีแนวทางปฎิบัติสำหรับวัคซีนโควิด-19 ดังนี้
- ก่อนฉีดวัคซีน สามารถบริจาคโลหิตก่อนฉีดวัคซีนได้ หากไม่มีอาการอ่อนเพลีย สามารถฉีดวัคซีนได้ในวันถัดไป ไม่ควรบริจาคโลหิตวันเดียวกับวันที่ฉีดวัคซีน
- หลังฉีดวัคซีน บริจาคโลหิต บริจาคโลหิตได้ โดยให้เว้น 7 หลังการฉีดวัคซีน
- กรณีมีอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน ขอให้หายดีก่อน เว้น 7-14 วัน ตามความรุนแรงของอาการ
ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- การบริจาคโลหิตไม่ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดลง เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นเซลล์ที่สร้างภูมิคุ้มกันออกมากับโลหิตที่บริจาคมีจำนวนน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนทั้งหมดที่มีในร่างกาย และยังถูกสร้างจากไขกระดูกมาทดแทนให้อยู่ในระดับปกติในกระแสโลหิตได้รวดเร็ว
- วัคซีนโควิด-19 ไม่มีผลกับการสร้างภูมิต้านทานในผู้ป่วยที่ได้รับโลหิต เนื่องจากภูมิคุ้มกันในโลหิตที่ได้รับมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณโลหิตทั้งหมดในร่างกายผู้ป่วย
ข้อมูลจาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
ภาพจาก TNN ONLINE