"ข่าวปลอม"ระบาด! เปิด 10 อันดับคนสนใจสูงสุด เจอแบบนี้อย่าเชื่อเด็ดขาด
ดีอีเอส เผยตัวเลข "ข่าวปลอม" รายสัปดาห์ ประชาชนแห่สนใจเรื่องการลงทุนและการปล่อยกู้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ หลังมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นธนาคารออมสิน และหน่วยงานด้านการลงทุนอื่นๆเตือนประชาชนเช็คข้อมูลให้ครบทุกด้านอย่าหลงเชื่อ
ดีอีเอส เผยตัวเลข "ข่าวปลอม" รายสัปดาห์ ประชาชนแห่สนใจเรื่องการลงทุนและการปล่อยกู้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ หลังมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นธนาคารออมสิน และหน่วยงานด้านการลงทุนอื่นๆเตือนประชาชนเช็คข้อมูลให้ครบทุกด้านอย่าหลงเชื่อ
นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่าสรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประจำวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,201,848 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 247 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 203 ข้อความ ข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน43 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Website จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 137 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 60 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน43 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 9 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 25 เรื่อง
สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่มมีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 1 เรื่อง
ภาพรวมที่ประชาชนสืบค้นส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ เป็นข่าวปลอมเกี่ยวกับสถาบันการเงิน คือ ธนาคารออมสิน โดยมีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการทำข้อความชวนเชื่อ และนำโลโก้ธนาคารพาณิชย์มาใช้เป็นสัญลักษณ์และแอบอ้างเป็นผู้ให้บริการเงินกู้จากสถาบันการเงิน หลอกลวงประชาชน ผ่านช่องทางต่างๆ ขณะเดียวกัน ข่าวปลอมที่เป็นกระแสอย่างมากในช่วงการยื่นแบบภาษีเงินได้
โดยกรมสรรพากร ก็ถูกมิจฉาชีพใช้แอบอ้างว่ามีการส่ง SMS แจ้งการยื่นภาษีไม่สำเร็จ หน่วยงานรัฐอีกหน่วยก็โดนโจรไซเบอร์แอบอ้างอีกที่ก็คือ กรมการจัดหางาน ที่มีการทำความชวนเชื่อว่ามีการรับสมัครพนักงานช่วยยืนยันสินค้านำเข้าจากจีน จึงอยากเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นผู้ให้บริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สิน” นางสาวนพวรรณ กล่าว
ข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2566 ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง บางจากชวนลงทุนหุ้นพลังงานผ่านมือถือ เพียง 1,000 บาท
อันดับที่ 2 เรื่อง กรมสรรพากรส่ง SMS แจ้งการยื่นภาษี ประจำปี 2566 ไม่สำเร็จ
อันดับที่ 3 เรื่อง ออมสินปล่อยสินเชื่อเพื่อการใช้จ่าย ผ่านเพจ Mymo สินเชื่ออาชีพอิสระ
อันดับที่ 4 เรื่อง ดื่มเบียร์ช่วยรักษาโรคความดันต่ำ
อันดับที่ 5 เรื่อง พจ Adrain Erdman เป็นเพจทางการของธ.ออมสิน
อันดับที่ 6 เรื่อง กรมการจัดหางานรับสมัครพนักงานช่วยยืนยันสินค้านำเข้าจากจีน
อันดับที่ 7 เรื่อง ออมสินปล่อยกู้สินเชื่อพ่อค้าแม่ค้า ไม่ต้องมีคนค้ำ ผ่านเพจ Mymo สินเชื่อด่วน
อันดับที่ 8 เรื่อง เพจธนาคารออมสินชื่อ Eliseo เปิดให้กู้สินเชื่อเพื่อคุณ
อันดับที่ 9 เรื่อง เตือนสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก พายุไต้ฝุ่นส่งมรสุมแรงเข้าประเทศไทย
อันดับที่ 10 เรื่อง เพจสินเชื่อ ธนาคารออมสิน เปิดให้กู้เงินฉุกเฉิน
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ติดตามความเคลื่อนไหวข้อความที่ผิดปกติในทุกช่องทาง และได้มีการติดตามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ขอให้ท่านตระหนักรู้เท่าทันข่าวปลอมที่ถูกแพร่กระจายอยู่บนโซเชียลมีเดีย และออนไลน์ โดยสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87
ภาพจาก AFP
ข่าวแนะนำ