ทองคำ vs. Bitcoin ความเหมือนที่แตกต่าง?

GOLD BULLISH

• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐขนาดใหญ่
• การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ 

GOLD BEARISH

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น
• แรงเทขายทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำ
• แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคเป็นขาลง
• ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นร้อนแรง

ความเหมือนของทองคำและ Bitcoin

กระแสความนิยมลงทุนใน Bitcoin ที่เป็นสกุลเงินดิจิตอล จากราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นแตะ 58,000 ดอลลาร์ จากต้นปีราคาไม่ถึง 3 หมื่นดอลลาร์ ทำให้เริ่มมีการนำเอาทองคำไปเปรียบเทียบกับ Bitcoin มองว่าเม็ดเงินจะไหลออกจากตลาดทองคำไปยังตลาด Bitcoin หรือ Bitcoin จะมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน เริ่มแรกมาพิจารณาถึงความเหมือนของทองคำและ Bitcoin กัน ในอดีตทองคำใช้เพื่อหนุนการพิมพ์ธนบัตรตามระบบมาตรฐานทองคำ (Gold Standard) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือกับธนบัตร มีกำหนดค่าของเงินเทียบไว้กับทองคำ ถึงแม้ว่าปัจจุบันไม่ได้ใช้ระบบมาตรฐานทองคำแล้ว แต่ทองคำยังถูกมองว่าเปรียบเหมือนเป็นเงินสกุลหนึ่ง สำหรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอลแรกที่กำเนิดขึ้นในปี 2009 โดยอาศัยใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่มีแนวความคิดว่าไม่ต้องการอาศัยคนกลางในการโอนเงิน และเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง โดยสรุปแล้วทองคำกับ Bitcoin อาจมองได้ว่าเป็นสกุลเงินทางเลือกแทนสกุลเงินหลัก (Fiat currency) เพียงแต่ Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิตอลและนำไปชำระค่าสินค้าได้ สิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่งคือทั้งทองคำและ Bitcoin มี Supply จำกัด ทองคำที่ยังไม่ได้ถูกขุดขึ้นมามีราว 54,000 ตัน  ขณะที่เหรียญ Bitcoin ถูกกำหนดไว้ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา Supply ของทองคำเพิ่มขึ้นเพียงเฉลี่ยอัตรา 1.7% ต่อปี ส่วนปัจจุบัน Supply ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นเฉลี่ยอัตรา 3% และคาดว่าจะเท่าเดิมตั้งแต่ในปี 2140 นั่นคงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นแรง 

Bitcoin แทนที่ทองคำได้หรือไม่ 

ราคา Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น 9 เท่าภายใน 2 ปี ผลตอบแทนที่สูงมากขนาดนี้ แน่นอนความเสี่ยงย่อมสูงตามไปด้วย ซึ่ง Bitcoin มีความผันผวนมากกว่าทองคำมากกว่า 5 เท่า  ถึงแม้ว่าทองคำกับ Bitcoin อาจมองได้ว่าเป็นสกุลเงินทางเลือก แต่ Bitcoin ดูแล้วไม่สามารถแทนที่ทองคำ เมื่อดูค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างทองคำกับ Bitcoin ต่ำมากอยู่ในช่วงระหว่าง 0.5 ถึง -0.5 ความหมายคือทั้ง 2 สินทรัพย์ไม่สามารถทดแทนกันได้ ทองคำถูกยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยงจากพอร์ตการลงทุน ขณะที่ Bitcoin ถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรเป็นหลัก ไม่ได้ช่วยกระจายความเสี่ยงจากพอร์ตการลงทุนเหมือนทองคำ อย่างไรก็ดีด้วยผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจของ  Bitcoin ถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนที่จะหันเหความสนใจไปลงทุนใน Bitcoin ในบางช่วงเพื่อสร้างผลกำไรจากการลงทุน

จริงอยู่ที่ Bitcoin สามารถนำมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2% ของธุรกรรมทางการเงินทั่วโลก แต่บทบาทของสกุลเงินดิจิตอลที่อาจไม่ใช่เฉพาะ Bitcoin ในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตเติบโตสูงอย่างแน่นอน ซึ่ง CBDC จะเป็นเงินดิจิตอลที่ออกโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ นอกจากจะนำไปใช้ชำระค่าสินค้า การโอนเงินระหว่างสถาบันการเงินและรายย่อย เงินทุนสำรองระหว่างประเทศเช่นเดียวกับทองคำ อาจรวมไปถึงการกำหนดนโยบายการเงินของประเทศต่างๆ ด้วย

สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ยังต้องระวังแรงเทขาย เนื่องจากราคาทองคำทางด้านเทคนิคยังเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ ปัจจัยลบยังเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเพิ่มขึ้น แรงเทขายทองคำของกองทุนอีทีเอฟทองคำ ผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจของ  Bitcoin ถือว่าเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนที่จะหันเหความสนใจไปลงทุนใน Bitcoin ในบางช่วง  เพื่อสร้างผลกำไรจากการลงทุน ส่วนการจ้างงานสหรัฐเดือนก.พ.จะทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวน ถ้าตัวเลขจริงออกมาแตกต่างจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก ซึ่งตลาดคาดการจ้างงานภาคเอกชน ADP และการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง และ 133,000 ตำแหน่ง ตามลำดับ

สัปดาห์นี้ทองคำ Spot มีแนวรับ 1,717 ดอลลาร์ และ 1,700 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,800 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 24,800 บาท และ 24,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 25,800 บาท