"วัยหนุ่ม 2544" เมื่อความผิดพลาดครั้งเดียว แลกด้วยอิสรภาพทั้งชีวิต
"วัยหนุ่ม 2544" ชวนสำรวจปัญหาเยาวชนในคุกไทย ทำไมวัยรุ่นถึงเข้าคุก? ชีวิตในนั้นเป็นอย่างไร? บทเรียนจากหนังเรื่องนี้คืออะไร?
"ย่างก้าวเข้าไปทัณฑสถาน เพื่อสร้างตำนานในวัยหนุ่ม"
เนื้อเพลงที่สื่อถึงชีวิตของเด็กหนุ่มในคุกได้อย่างจับใจ ในช่วงที่ภาพยนตร์ "วัยหนุ่ม 2544" กำลังเข้าฉาย มันชวนให้เราต้องหันมามองปัญหาเยาวชนในคุกไทยอย่างจริงจัง
ตัวเลขสถิติของผู้ต้องขังวัยหนุ่ม (อายุ 18-25 ปี) ในประเทศไทยบอกอะไรเราบ้าง? ในปี 2561 มีคนหนุ่มสาววัยนี้อยู่ในเรือนจำประมาณ 30,000 คน คิดเป็น 9.2% ของผู้ต้องขังทั้งหมด แม้ตัวเลขจะลดลงมาเรื่อยๆ จนเหลือ 22,000 คน (6.9%) ในปี 2566 แต่นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางสถิติ ทุกหน่วยคือชีวิตจริงของคนหนุ่มสาวที่พลาดพลั้ง ความเข้มข้นของปัญหานี้สะท้อนผ่านตัวละคร "เผือก" (รับบทโดย ณัฏฐ์ กิจจริต) เด็กจากชุมชนแออัดที่ชีวิตพังทลายเพราะ 'เดินทางผิด'
ทำไมเด็กหนุ่มถึงเข้าคุก? คำตอบมันซ่อนอยู่ในเนื้อเพลง "ในวัยเด็กเคยมีความฝันสักวันต้องยิ่งใหญ่ วันข้างหน้าต้องมีเงินใช้ ไม่ให้แม่ลำบาก" แต่พอโตขึ้นมา "ศักดิ์ศรี" กลับพาพวกเขา "เดินผิดทาง"
ในภาพยนตร์ ' วัยหนุ่ม 2544' มีการแบ่งแยก ระหว่าง "บ้านฝั่งธน" กับ "บ้านฝั่งคลองเตย" สะท้อนความจริงของระบบเรือนจำที่มักมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผ่านตัวละครอย่าง "เบียร์" (เป้ อารักษ์) และ "บอย" (ท็อป ทศพล) ที่แสดงให้เห็นว่าในคุกมีการจัดลำดับชั้น มีผู้มีอิทธิพล และมีกฎของตัวเอง เหมือนที่ "เผือก" ต้องเผชิญ แม้จะมีเพื่อนอย่าง มะเดี่ยว กอล์ฟ และฟลุ๊ค แต่การอยู่รอดในคุกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
นี่คือที่มาของคำว่า "พื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์" ที่คนมักพูดถึง เพราะคนที่เข้าไปด้วยความผิดเล็กน้อย อาจต้องเรียนรู้พฤติกรรมและวิธีการใหม่ๆ เพื่อความอยู่รอด จนบางคนอาจกลายเป็นอาชญากรตัวจริงเมื่อพ้นโทษออกมา
ตัวเลขผู้ต้องขังอาจลดลง แต่ปัญหามันซับซ้อนกว่านั้น ลองคิดดู จาก 30,000 คนในปี 2561 มาถึง 22,000 คนในปี 2566 แต่ละคนล้วนมีครอบครัวที่รอคอยอยู่ที่บ้าน มีแม่ที่คอยห่วงใยลูกในคุกทุกลมหายใจ กลัวว่าลูกจะไม่ปลอดภัย กลัวว่าจะไม่มีอาหารกิน กลัวว่าจะไม่ได้กลับออกมา นั่นหมายถึงมีครอบครัวนับหมื่นที่ต้องแบกรับความทุกข์ทรมานไปพร้อมกับลูกที่อยู่ในคุก
มองในแง่บวก ตัวเลขผู้ต้องขังวัยหนุ่มที่ลดลงถึง 8,000 คนในช่วง 5 ปี อาจเป็นแสงริบหรี่ที่ส่องให้เห็นว่าระบบยุติธรรมเริ่มเข้าใจและแก้ปัญหาได้ดีขึ้น แต่การที่ยังมีคนหนุ่มสาวกว่า 22,000 ชีวิตต้องมาใช้วัยอันสดใสอยู่หลังกำแพงสูง ก็ยังเป็นตัวเลขที่น่าปวดใจ เพราะแต่ละชีวิตที่ต้องมาอยู่ที่นี่ คือความฝันที่แตกสลาย คือรอยยิ้มที่เลือนหาย และคือน้ำตาของพ่อแม่ที่ต้องนอนร้องไห้คิดถึงลูกทุกค่ำคืน
"ข้าพเจ้าเป็นผู้มีกรรมเป็นของตัวเอง...จึงต้องรับผลกรรมนั้น..."
ประโยคที่ดังก้องในคุกวัยหนุ่ม วันแล้ววันเล่า เตือนใจให้ทุกคนต้องยอมรับผลของการกระทำ ไม่มีใครหนีพ้นกฎแห่งกรรมไปได้ แต่หากสังคมร่วมมือกันสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับเยาวชน พวกเขาก็อาจไม่ต้องมาเรียนรู้บทเรียนราคาแพงหลังกำแพงคุก
ภาพยนตร์ "วัยหนุ่ม 2544" อาจเป็นแค่เรื่องราวบนแผ่นฟิล์ม แต่ชีวิตของผู้ต้องขังวัยหนุ่มหลายหมื่นคนในเรือนจำทั่วประเทศ คือความจริงที่สะท้อนว่า การก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวอาจต้องแลกด้วยอิสรภาพและความฝันทั้งชีวิต ที่ต้องใช้เวลาอันมีค่าในวัยฉกรรจ์มานั่งทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง พร้อมๆ กับที่หัวใจของครอบครัวเจ็บปวดรวดร้าวกับการรอคอยที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เพราะฉะนั้น ก่อนที่ใครสักคนจะคิด "สร้างตำนานในวัยหนุ่ม"
ขอให้คิดถึงคำว่า "กรรม" ให้ดี เพราะเมื่อก้าวพลาดไปแล้ว ไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากต้องชดใช้ด้วยตัวเองเท่านั้น
-------------
"วัยหนุ่ม 2544" ภาพยนตร์ที่จะเปิดม่านชีวิตหลังกำแพงคุก กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ผลงานการกำกับของ พุฒิพงษ์ นาคทอง ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง ณัฏฐ์ กิจจริต, เป้ อารักษ์ และทีมนักแสดงคุณภาพมาถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตพลิกผันหลังก้าวเข้าสู่รั้วเรือนจำ ไม่เพียงเป็นภาพยนตร์ที่จะสร้างความบันเทิง แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญที่จะเตือนใจให้ทุกคนตระหนักว่า การตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียวในวัยหนุ่มสาว อาจต้องแลกด้วยอิสรภาพและความฝันทั้งชีวิต
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับชมภาพยนตร์คุณภาพที่จะทำให้คุณได้เห็นอีกด้านของชีวิตที่หลายคนอาจไม่เคยรับรู้ วันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
ภาพ :
เนรมิตรหนัง ฟิล์ม Neramitnung Film
ข่าวแนะนำ