TNN ‘Mareterra‘ เขตเศรษฐกิจสีเขียวบนพื้นน้ำแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท

TNN

Tech

‘Mareterra‘ เขตเศรษฐกิจสีเขียวบนพื้นน้ำแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท

‘Mareterra‘ เขตเศรษฐกิจสีเขียวบนพื้นน้ำแห่งใหม่ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท

เผยโฉม “แมร์เทอร์รา” (Mareterra) เขตเศรษฐกิจสีเขียวมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 71,000 ล้านบาท โครงการขยายเมืองบนพื้นที่ถมทะเลที่ยั่งยืน เป็นต่อสิ่งแลดล้อม และใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โมนาโก

เผยโฉม “แมร์เทอร์รา” (Mareterra) เขตเศรษฐกิจสีเขียวมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 71,000 ล้านบาท โครงการขยายเมืองบนพื้นที่ถมทะเลที่ยั่งยืน เป็นต่อสิ่งแลดล้อม และใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศโมนาโก


ประเทศโมนาโกเผยโฉมโครงการ “แมร์เทอร์รา” (Mareterra) เขตเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นโครงการขยายเมืองบนพื้นที่ถมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย ผลงานที่ออกแบบโดยทีมสถาปนิกชื่อดังระดับโลกนี้ได้เพิ่มพื้นที่ถึง 60,000 ตารางเมตร (6 เฮกตาร์) หรือประมาณ 3% ของพื้นที่ทั้งหมดของโมนาโก ที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย แต่ยังเป็นการพัฒนาเมืองที่สะท้อนถึงความยั่งยืนและผลประโยชน์ของผู้คนเป็นหลัก


โครงการพัฒนาเมืองแมร์เทอร์ราที่มีมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 71,000 ล้านบาทนี้ เกิดขึ้นด้วยเป้าหมายที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ของโมนาโกซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กกว่ากรุงเทพ โดยมีพื้นที่เพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร โครงการนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ถมทะเลทั้งหมดซึ่งผสานพื้นที่ใช้สอยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและพื้นที่เชิงพาณิชย์อย่างลงตัว


โดยพื้นที่ครึ่งหนึ่งจะใช้เป็นพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะทางเดินเลียบชายฝั่ง และท่าจอดเรือ ภายในยังรวมถึงโซนที่พักอาศัยอย่าง “เลอ เร็นโซ” (Le Renzo) พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ นับว่าเป็นการตอบโจทย์ข้อจำกัดด้านพื้นที่ของโมนาโก และแสดงถึงการพัฒนาเมืองที่สมดุลระหว่างความทันสมัยและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


แมร์เทอร์รายังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นแรกของการวางโครงสร้าง โดยโครงการได้ทดสอบเทคนิคการก่อสร้างที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และทีมพัฒนายังทำงานร่วมกับนักชีววิทยาทางทะเลในการย้ายและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในทะเลในพื้นที่ เช่น หญ้าทะเลโพซีโดเนีย (Posidonia) และหอยนางรมขนาดใหญ่ ทั้งยังติดตั้งแผงกันตะกอนและกำหนดตารางขุดลอกที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ อีกทั้งได้มีการออกแบบโครงสร้างคอนกรีตใต้น้ำให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ


นอกจากนี้ โครงการยังใช้เทคโนโลยีพลังงานสะอาด เช่น ระบบแลกเปลี่ยนความร้อนจากน้ำทะเล ระบบเก็บน้ำฝนสำหรับการชลประทาน และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตพลังงานได้ถึง 40% ของความต้องการในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่สีเขียวอย่างหลังคาเขียว ป่าขนาด 10,000 ตารางเมตร และการปลูกต้นไม้ใหญ่กว่า 1,000 ต้น ทั่วพื้นที่


ทีมสถาปนิกระดับโลกได้ร่วมรังสรรค์ ผลงานการออกแบบในโครงการนี้ อย่าง “วาโลด เอต์ พิสตร์ อาร์คีเท็กส์” (Valode et Pistre Architectes) จากฝรั่งเศสที่ออกแบบพื้นที่เขต “จาร์แดงส์ โดว์” (Jardins d’Eau) และเขตคอลลิน (Colline) ซึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ “เรนโซ เปียโน บิลดิง เวิร์กชอป” (Renzo Piano Building Workshop) จากอิตาลีที่ออกแบบโซนท่าเรือ และอาคารที่พักอาศัย Le Renzo และ มิเคล เดส์วีนญ์ (Michel Desvigne) จากฝรั่งเศสที่ดูแลงานด้านภูมิทัศน์เมืองให้กลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสถาปนิกชื่อดังอื่น ๆ ที่ออกแบบบ้านพักอาศัยที่เพิ่มความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม


แมร์เทอร์รายังให้ความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐานสำหรับงานด้านวัฒนธรรมของโมนาโก อย่าง การขยายพื้นที่ศูนย์การประชุม “กรีมัลดี ฟอรัม” Grimaldi Forum เพิ่มเติมถึง 10,000 ตารางเมตร ที่ครอบคลุมพื้นที่จัดแสดง ขนาด 6,000 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เช่น พื้นที่นั่งสมาธิ จุดชมวิวใต้น้ำ และทางเดินสำหรับคนเดินเท้า


แมร์เทอร์รานับว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของโครงการพัฒนาพื้นที่ถมทะเลที่ยั่งยืน ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับมาตรฐานความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล สำหรับการพัฒนาเมืองบริชายฝั่งทั่วโลก โดยได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมอย่างเป็นทางการแล้วในเดือนธันวาคม 2024



ที่มาข้อมูล https://www.designboom.com/architecture/mareterra-ecodistrict-monaco-renzo-piano-valode-pistre-land-reclamation-12-05-2024/ 

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง