ส่องตลาด Exchange 3 เจ้าใหญ่ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในไทย

คริปโตเคอเรนซี่กลับมาเป็นที่ถูกพูดถึงอีกครั้งในบ้านเรา หลังจากวานนี้(2 ก.ย.) บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet)  ตัดสินใจยุติการให้บริการโดยให้เหตุผลว่าเล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจด้านอื่นๆ และไม่มีความประสงค์ที่จะต่อใบอนุญาตที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ (ก.ล.ต.)

วันนี้จะพามาส่องศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย หรือ กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจทัลในประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาต โดยเราขอยกตัวอย่างมาพูดถึง 3 เจ้าดังๆ ด้วยกัน อย่าง BX (ที่ประกาศปิดตัวไปมีผลสิ้นเดือนก.ย.นี้) , Satang Pro และ Bitkub

เริ่มที่เจ้าแรกของประเทศไทย ต้องยอมรับว่า เว็บไซต์ Bx.in.th หรือ บริษัท บิทคอยน์ จำกัด ที่ประกาศยุติการให้บริการไปนั้น นับเป็นเว็บไซต์ด้านแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าแรกในประเทศไทย และน่าจะเป็นเว็บไซต์แรกที่คนไทยสนใจในตลาดคริปโตเคอเรนซี่นึกถึง ด้วยการมีสกุลเงินดิจิทัลอยู่บนกระดานซื้อขายราว 28 สกุลเงินดิจิทัล ทั้งสกุลเงินหลักๆ และ ICO บางตัว แต่น่าเสียที่ได้ประกาศปิดตัวโดยมีผลในวันที่ 30 กันยายนนี้

เจ้าต่อไปถือกำเนิดจากการใช้ชื่อว่า TDAX หรือปัจจุบันชื่อ Satang Pro เว็บไซต์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยเป็นเจ้าที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าที่ถือกำเนิดขึ้นในยุคแรกๆ มีสกุลเงินดิจิทัลหลักๆ อยู่ 7 สกุลเงิน และอีกหนึ่ง ICO ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างเหรียญ JFinCoin ด้วย และนอกจากนี้ในปัจจุบัน Satang Pro เป็นเว็บไซต์ที่มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 1 ล้านUS ต่อวัน อีกด้วย

มาดูกันต่อที่เจ้าสุดท้ายที่จะพูดถึง นั้นก็คือ Bitkub เป็นกระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลที่เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสตลาดคริปโตเคอเรนซี่มาแรงเมื่อช่วงปีก่อน โดยในปัจจุบันนับว่าเป็นอีกหนึ่งเจ้าที่มาแรงอย่างมากในประเทศไทย โดย Bitkub เป็นกระดานเทรดที่เริ่มต้นได้โดยระยะเวลาประมาณ 1 ปีกว่าๆ และสามารถขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้ ด้วยการมีวอลุ่มเทรดอยู่ที่ราวๆ อันดับที่ 2 ของประเทศ อีกทั้งรองรับสกุลเงินดิจิทัลที่อยู่บนกระดานปัจจุบันจำนวน 27 สกุลเงินดิจิทัล 

เจ้าตลาดปิดตัว เปิดโอกาสให้เจ้าอื่นขึ้นชิง

และเมื่อ BX ประกาศปิดตัวสิ่งที่ตามมาคือ เจ้าใหญ่ในตลาดอย่าง Satang Pro และ Bitkub ต่างเร่งดึงศักยภาพด้านเด่นๆ ของตัวเองเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานที่อยู่บนกระดาน BX ที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อให้ย้ายไปยังกระดานเทรดของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการแข่งขันบนสถานการณ์ที่ร้อนแรงเหลือเกิน แต่ก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าขั้นตอนต่างๆ และการตัดสินใจของผู้บริโภคนั้นจะเลือกไปทางใด 

อุ่นใจเพราะมี ก.ล.ต. คอยดูแล

แม้ว่าปัจจุบันตลาดคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยจะไม่คึกคักเหมือนช่วงปีก่อนที่ผ่านมาแต่ต้องยอมรับว่าการเข้ามาดูแลและกำกับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. นั้นทำให้ผู้ใช้งานหรือผู้ที่เข้ามาในตลาดดังกล่าวอุ่นใจได้ โดยเฉพาะสถานการณ์ในวันที่กระดานซื้อขายอย่าง BX หนึ่งในบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากก.ล.ต. จะปิดตัว ทาง ก.ล.ต. ก็ยังเป็นที่พึ่งพิงและคอยให้คำปรึกษากับประชาชน โดยเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) มีข้อมูลอัปเดตจากทางก.ล.ต.ที่ระบุว่า ณ เวลา 18.00 น.(วันที่ 2 ก.ย.) มีผู้ลงทุน BX โทรเข้ามาที่ "ศูนย์แนะนำช่วยเหลือผู้ลงทุนเฉพาะกิจ" ประมาณ 200 ราย ส่วนใหญ่สอบถามเรื่องวิธีการโอนเหรียญ/โอนเงิน/เปลี่ยนศูนย์ซื้อขายฯ