เจาะลึก 10 บริษัทระดับโลก ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของ TSMC

แอปเปิล (Apple) เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ TSMC ผู้ผลิตชิปเบอร์ 1 ของโลกจากไต้หวัน มากถึง 1 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท TSMC

ทีเอสเอ็มซี (TSMC: Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) เป็นบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) หรือสารกึ่งตัวนำที่เป็นส่วนประกอบในวงจรไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงชิปเซ็ต (Chipset) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานส่วนประกอบต่าง ๆ ภายในระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน ปัจจัยใด ๆ ก็ตามที่อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตชิปของบริษัทนี้ย่อมสะเทือนไปยังสินค้าไฮเทคทั่วโลก โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ของทีเอสเอ็มซี (TSMC) ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด

แอปเปิล (Apple) เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีการสร้างระบบปฏิบัติการบนตัวชิป (System on Chip: SoC) ของตัวเองขึ้นมา เช่น แอปเปิล เอ็มวัน (Apple M1) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ของบริษัท หรือตระกูลเอ (A Series) อย่าง เอ 15 ไบออนิก (A15 Bionic) ที่อยู่ในไอโฟน (iPhone) ต่างพึ่งพาการผลิตจากทีเอสเอ็มซี (TSMC) อย่างมาก โดยแอปเปิลนั้นมียอดซื้อมากถึง 25.93 เปอร์เซ็นต์ ของยอดสั่งซื้อทั้งหมดในปี 2021

ในขณะที่บริษัทอื่น ๆ นั้นเลือกซื้อชิป (Chip) จากทีเอสเอ็มซี (TSMC) ด้วยพื้นฐานที่ต่างกันออกไป อย่างเช่นมีเดียเทค (MediaTek) บริษัทผู้สร้างระบบชิปสำหรับสมาร์ตโฟนที่เป็นคนบ้านเดียวกันกับทีเอสเอ็มซี (TSMC) นั้นมียอดสั่งซื้อตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 5.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคู่แข่งอย่างควอลคอมม์ (Qualcomm) จากสหรัฐอเมริกาก็ใช้บริการทีเอสเอ็มซี (TSMC) ในฐานะลูกค้ารายใหญ่เบอร์ 4 ที่มีสัดส่วนยอดสั่งซื้อ 3.9 เปอร์เซ็นต์

เอเอ็มดี (AMD) ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตซีพียู (CPU: Central Processor Unit) และจีพียู (GPU: Graphic Processor Unit) รายใหญ่ของโลกก็เป็นถึงลูกค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของทีเอสเอ็มซี (TSMC) ด้วยสัดส่วน 4.39 เปอร์เซ็นต์ และคู่แข่งโดยตรงอย่างเอ็นวิเดีย (Nvidia) ก็เป็นลูกค้าอันดับ 6 ที่มียอดการซื้อขายเป็น 2.83 เปอร์เซ็นต์

ชิป (Chip) เป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ในวงการโทรคมนาคมและระบบการทำงานไร้สาย ซึ่งบริษัทบรอดคอม (Broadcom) ถือเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในด้านนี้ก็มีการตกลงซื้อขายกับทีเอสเอ็มซี (TSMC) ด้วยสัดส่วน 3.77% รั้งอันดับ 5 ใน 10 ลูกค้ารายใหญ่ทั้งหมด และยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับวงการโทรคมนาคม และผู้ผลิตชิปสำหรับสินค้าเฉพาะทางอย่างมาร์เวลล์ (Marvell) ลูกค้าเบอร์ 8 ในอัตรา 1.39% และตามมาด้วยเอสทีเอ็ม (STM) จากฝรั่งเศสที่มียอดเป็น 1.38% รวมถึงอนาล็อก ดีไวซ์ส (Analog Devices Inc: ADI) ที่มียอดอยู่ที่ 1.06%

วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือแม้แต่เครื่องเสียงก็หนีไม่พ้นชิป (Chip) เช่นกัน โดยเฉพาะโซนี่ (Sony) แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่มียอดสั่งซื้อ 2.54% ดังนั้นจีงเห็นได้ว่า เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ที่มีทีเอสเอ็มซี (TSMC) เป็นผู้เล่นเบอร์ 1 ซึ่งกวาดส่วนแบ่งไปมากกว่าครึ่งของทั้งโลกในทุกไตรมาสนั้นแผ่ขยายไปยังทุกอุตสาหกรรม ดังนั้น สถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันจึงมีผลต่อกำลังการผลิตและราคาสินค้าต่าง ๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้

ที่มาข้อมูล TechnoSports

ที่มารูปภาพ TSMC