TNN online บริษัท Ola Electric เรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 1,441 คัน หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้

TNN ONLINE

Tech

บริษัท Ola Electric เรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 1,441 คัน หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้

บริษัท Ola Electric เรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 1,441 คัน หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้

บริษัทโอลา อิเลคทริค ได้เรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในประเทศอินเดีย 1,441 คัน หลังจากที่เกิดเหตุไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ

บริษัทโอลา อิเลคทริค (Ola Electric) บริษัทผู้ผลิตสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใต้การสนับสนุนของซอฟต์แบงก์ (Softbank) กลุ่มบริษัทโทรคมนาคมข้ามชาติสัญชาติญี่ปุ่น ได้มีการออกมาเปิดเผยแล้วว่า ทางบริษัทจะทำการเรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในประเทศอินเดียจำนวน 1,441 คัน หลังจากที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนหนึ่งเจอปัญหาไฟไหม้ขึ้นมา จนทำให้ทางรัฐบาลต้องลงมาสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า โดยบริษัทโอกินาวา (Okinawa) กับเพรียวอีวี ({PureEV) เองก็ประสบปัญหากับการที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไฟไหม้เหมือนกัน การรณรงค์ให้ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดของนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย ในการตั้งเป้าหมายลดการใช้คาร์บอนและภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น


รัฐบาลของประเทศอินเดียได้ตัดสินใจที่จะทำการตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทโอกินาวาได้มีการเรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามากถึง 3,215 คันด้วยกัน ต่อมาบริษัทโอลา อิเลคทริคได้ออกแถลงการณ์เรื่องนี้อย่างเป็นทางการว่า ทางบริษัทจะเดินหน้าตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น และทำการตรวจเช็คสุขภาพของเครื่องยนต์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้ถี่ถ้วนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงประกาศเรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 1,141 คัน


ที่ผ่านมาบริษัทโอลา อิเลคทริคได้มีการตั้งเป้าหมายว่า จะมีการขายสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากับรถมอเตอร์ไซด์มากกว่า 80 % ภายในปี 2030 ปัจจุบันยอดขายรถของบริษัทโอลา อิเลคทริคมีการอยู่ที่ประมาณ 2% และทางรัฐบาลของนเรนทระ โมที ได้มีการส่งเสริมให้หลายบริษัททำการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ใช้ภายในประเทศอินเดียมากขึ้น


สำหรับนโยบายของบริษัทโอลา อิเลคทริคให้ความสำคัญกับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย และเมื่อเจอกับเหตุการณ์ไฟไหม้แล้ว เรื่องนี้ไม่อาจทำให้บริษัทไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ พร้อมกับมีการเรียกคืนสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อทำการประเมินตรวจสอบในทางเบื้องต้นก่อน

 

ข้อมูลจาก : reuters.com

ภาพจาก : retailnews.asia

ข่าวฮิตติดแท็ก

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง