ชาวเน็ตแห่แชร์ วิธีการป้องกันการ “ถูกดูดเงินจากบัญชี” มีอะไรบ้างเช็กเลยที่นี่
ชาวเน็ตแชร์วิธีการป้องกันการ “ถูกดูดเงินจากบัญชี” หลังมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ไม่อยากเงินหายเช็กวิธีการได้เลยที่นี่
วันนี้ ( 18 ต.ค. 64 )จากกรณีผู้ใช้บริการถูกโอนเงินจากบัญชีติดต่อกันหลายรายการจนในขณะนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จนโลกโซเชียลมีการตั้งกลุ่ม “แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีไม่รู้ตัว” ซึ่งผู้เสียหายหลายรายได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การถูกดูดเงินออกจากบัญชีซึ่งขณะนี้สมาชิกในกลุ่มมีถึง 5.5 หมื่นรายเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามสมาชิกบางรายได้มาแชร์วิธีการเบื้องต้นเพื่อกันการถูกโอนเงินออกจากบัญชีโดยสรุปดังนี้
1.ตั้งบัญชีบัตรเดรดิตในการทำธุรกรรมในแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ตั้งวงเงินให้กลายเป็น 0 บาท เมื่อต้องการใช้ซื้อของค่อยเข้าไปเปลี่ยนวงเงินที่ต้องการจะใช้ใหม่ โดยตั้งให้พอดีกับการใช้แต่ละครั้ง
2.ลบการผูกบัญชีบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งต่างๆ และ ในระบบ google play หรือ apple store ออกให้หมด
3.สำหรับคนที่โดนหักเงินจาก facebook นำเงินไปจ่ายค่ายิงแอดโฆษณา ให้เข้าไปที่ดูการแจ้งเตือนว่า มีคนดึงบัญชีของเราเข้าไปบัญชีโฆษณาของ Facebook หรือไม่ หลังจากนั้นให้ไปไล่หาชื่อของเรา ตรงบทบาทผูดูแลบัญชี และกดลบผู้ใช้ออกทันที หลังจากนั้นให้ลบบัญชีที่ทำไว้เพื่อทำธุรกรรมผ่านเฟซบุ๊กออก
4.หากใครพบความผิดปกติของบัญชีธนาคารของตนเอง สามารถติดต่อสถาบันการเงิน เพื่ออายัดบัตร หรือ บัญชีโดยทันที ตามเบอร์โทรดังต่อไปนี้ตามภาพ
นอกจากนี้ เพจ Drama addict ได้แนะวิธีการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ในการผูกบัญชีเพื่อซื้อของอย่างปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือสโตร์ออนไลน์ โดยการเปิด ทรูวอลเล็ต แล้วใช้ บัตรเครดิต we card ในแอปฯ ไปผูกกับบัญชีออนไลน์ทั้งหมด แล้วรักษายอดเงินในวอลเล็ตไว้ที่หลักสิบบาท หลังจากนั้นหากต้องการจะต่อสมาชิกอะไร ให้เติมเงินตามจำนวนที่จะจ่าย แล้วกดจ่ายทันที สรุปคคือ ใช้บัญชีธนาคารเชื่อมกับทรูวอลเล็ตอันเดียว แล้วใช้ ทรูวอลเล็ต ไปผูกกับบริการอื่นๆแทน แล้วตั้งค่า sms ของบัญชีธนาคารให้แจ้งเตือนหากมีการทำธุรกรรมการเงินมีการเข้าออกของเงินในบัญชี เท่านี้ก็น่าจะปลอดภัยในระดับนึง
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำให้ ผู้เสียหายแจ้งไปยังธนาคาร เพื่ออายัดบัตรและปฎิเสธการชำระเงินค่าบริการทางออนไลน์ และตรวจสอบรายการเดินบัญชี รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้กระทำความผิดและนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
สำหรับแนวทางการป้องกัน กรณีที่คนร้ายได้ข้อมูลที่อยู่ด้านหน้าบัตร และตัวเลขรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร คนร้ายจึงสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้ OTP
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตรและรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก
นอกจากนี้ยังประชาชน ควรนำแผ่นสติ๊กเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร หรือจดรหัส 3 ตัวดังกล่าวเก็บไว้ แล้วใช้กระดาษทรายลบตัวเลขรหัสดังกล่าวออกจากด้านหลังบัตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน และป้องกันมิจฉาชีพ มิให้แอบถ่ายรูปด้านหน้าและหลังบัตรเพื่อนำไปใช้จ่ายในโลกออนไลน์
ข้อมูลจาก : แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีไม่รู้ตัว, Drama addict, Akkachai P, รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ภาพจาก : Drama addict, Akkachai P, ธปท.