ข่าวดี! จดทะเบียน “สุนัขไทยบางแก้ว” เป็นสุนัขโลก ต่อจากพันธุ์ไทยหลังอาน
สมาพันธ์สุนัขโลก (Federation Cynologique International :FCI) จดทะเบียน “สุนัขไทยบางแก้ว” เป็นสุนัขโลกเรียบร้อยแล้ว ต่อจากสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน โดยจัดอยู่ในกรุ๊ป 5 จาก 10 กรุ๊ป
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า สมาพันธ์สุนัขโลก (Federation Cynologique International :FCI) จดทะเบียน “สุนัขไทยบางแก้ว” เป็นสุนัขโลกเรียบร้อยแล้ว ต่อจากสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน โดยจัดอยู่ในกรุ๊ป 5 จาก 10 กรุ๊ป ซึ่งกรุ๊ป 5 แบ่งตามลักษณะของสุนัขและแหล่งกำเนิดของสุนัข คือ Spitz เป็นสุนัขที่มีขนยาว หนา และมักเป็นสีขาว หูตั้ง ปลายหูแหลม หางมักจะโค้งอยู่เหนือหลัง รูปหน้าสุนัขจิ้งจอกหรือคล้ายกับหมาป่า และ Primitive type เป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือสุนัขโบราณ
สุนัขบางแก้ว ถูกตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิด คือ “วัดบางแก้ว” ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สุนัขไทยพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอกหรือเป็นสุนัขลูกผสมของสุนัขจิ้งจอก คนไทยนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เนื่องจากสุนัขบางแก้วขึ้นชื่อเรื่องความดุ ปัจจุบันสุนัขจากประเทศไทยได้รับการรับรองจาก FCI แล้ว 2 สายพันธุ์ คือ #ไทยหลังอาน อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Primitive type และล่าสุด #ไทยบางแก้ว อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Spitz
ความสำคัญของการที่ FCI จดทะเบียนสุนัขไทยบางแก้ว เป็นสุนัขโลกนั้น เป็นการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข เพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้ถือปฏิบัติเป็นตามมาตรฐานเดียวกัน เช่น การรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข การรับรองการประกวดของประเทศสมาชิก การรับรองกรรการผู้ตัดสินของประเทศสมาชิก ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้ส่งประกวดจะได้รับใบเพ็ดดิกรี หรือใบรับรองพันธุ์ประวัติ (Certificate Pedigree) แสดงถึงคุณภาพของลูกสุนัขที่ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรม ลักษณะเด่น ด้อย ทั้งในเชิงกายภาพรูปร่าง หน้าตา ไปจนถึงลักษณะนิสัย ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาพันธุ์สุนัข (FCI) มีสมาชิกทั้งหมด 98 ประเทศ มีสุนัขที่ได้รับรองมาตรฐานแล้วประมาณ 370 สายพันธุ์
ภาพ / ข้อมูล สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วจังหวัดพิษณุโลก