ไม่เหนื่อย "พิชัย" รุกต่อ L.A. ตั้งวงถกทูตพาณิชย์ ประเมินตลาดสหรัฐฯ หลัง "ทรัมป์" นั่ง ปธน. รอบ 2
รมว.พาณิชย์ ลุยต่อ L.A. นำทีมถกทูตพาณิชย์อเมริกา ลาตินอเมริกา ผู้นำเข้ารายใหญ่ ประเมินสถานการณ์การค้า-ลงทุน หลัง “ทรัมป์” นั่งประธานาธิบดี พลิกมิติให้ทูตใช้งาน รมต.ได้ พร้อมเตรียมกลับมาสหรัฐฯ อีกครั้ง ก.พ.68 คุยรัฐบาลทรัมป์
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา) ณ โรงแรม Sofitel Los Angeles at Beverly Hills นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและการส่งออกสินค้าไทยในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา ร่วมกับนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์อัครราชทูต(ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานพาณิชย์ ณ กรุงวอชิงตัน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกา เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าในตลาดสหรัฐฯ ทำงานเชิงรุก เร่งหาโอกาสทางการค้า การลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทย ช่วยเหลือผู้ประกอบการให้ดีขึ้น ให้ภาคเอกชนมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ซื้อสินค้าไทยได้มากขึ้น
นายพิชัย ระบุกระทรวงพาณิชย์เรียกทูตพาณิชย์ในภูมิภาคอเมริกาและลาตินอเมริกามารับฟังความคิดเห็นถึงทิศทางในอนาคตของไทย ซึ่งแนวโน้มไทยถือว่าดีเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยอัครทูตและทีมพาณิชย์เป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์และเป็นทัพหน้าของประเทศในการแสวงหาโอกาสดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทย เป็นส่วนหนึ่งของการทูตเชิงรุกตามข้อสั่งการของท่านนายกฯ เน้นขยายตลาดสินค้าไทยในต่างแดน ตนได้ให้นโยบายให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำมาเสนอตนได้เลยอย่าไปติดกรอบเดิม เพราะโลกเปลี่ยนเร็วทูตพาณิชย์ทุกคนสามารถใช้งานรัฐมนตรีพาณิชย์มาช่วยขยายตลาดการค้าการลงทุนในประเทศต่างๆได้
โดยการประชุมวันนี้ ทูตพาณิชย์ที่ได้มาให้ข้อมูลทำการบ้านดีมากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ว่าทิศทางอนาคตจะเป็นอย่างไร สินค้าอะไรที่มีอนาคต ตอนนี้ข้าวไทยขายดีมาก เมืองนอกราคาพุ่งขึ้นไปถึง 1,000 กว่าเหรียญสหรัฐฯ/ตัน ราคาในประเทศก็ดี รู้สึกดีใจแทนชาวนา นอกจากนี้เราจะส่งสินค้าไทยที่เป็น Next Level ให้มีการเพิ่มมูลค่า พัฒนาตัวเองทำสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าไฮเทคมากขึ้น วันก่อนตนพบท่านทูตไต้หวัน ท่านบอกว่าไทยจะเป็นผู้ผลิต PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์)ที่ใหญ่ที่สุดในโลกต่อไปในอนาคต ทางไต้หวันก็ย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย และไทยจะเป็นศูนย์กลางเซมิคอนดักเตอร์ ชิป สินค้าสมาร์ทต่างๆ เช่น สมาร์ททีวี ตู้เย็น EV และ AI ตอนที่ตนไปประชุมที่เปรูก็มี หลายประเทศให้ความสนใจ ทางแคนาดาก็จะนำนักลงทุนที่มีศักยภาพกว่า 100 คน มาไทยด้วย
วันนี้กระทรวงพาณิชย์ มีการทำงานล่วงหน้าคิดล่วงหน้า ทำงานในเชิงรุก เพื่อหาโอกาสให้กับประเทศ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ตนและคณะพาณิชย์จะเดินทางมาสหรัฐอีกครั้งเพื่อหารือกับคณะทีมงานของประธานาธิบดี ซึ่งอาจยังตั้งรัฐบาลไม่ครบ แต่คาดว่าจะชัดเจนมากขึ้น พร้อมย้ำ ไทยจะเป็นฐานการผลิตให้กับอเมริกาส่งสินค้ากลับไปที่อเมริกาและประเทศอื่นๆ ตนพูดเสมอว่าไทยโชคดีไม่ต้องเลือกข้าง จีนก็รักเรา อเมริกาก็รักเรา อินเดียก็รักเรา รัสเซียก็รักเรา ตะวันออกกลางก็รักเรา เราเป็นที่รักของทุกคน การค้าการลงทุนทุกคนอยากได้ประโยชน์ต้องจัดสรรประโยชน์ให้ลงตัว และที่สำคัญในโลกการค้าอยู่ที่ความสัมพันธ์ ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีการเจรจาต่างๆก็จะง่ายขึ้น
นอกจากนี้ก่อนการหารือกับทูตพาณิชย์นายพิชัยและคณะยังได้หารือกับผู้นำเข้าสินค้าไทยรายใหญ่ 3 ราย เพื่อหารือทิศทางการค้าของสหรัฐฯโอกาสและผลกระทบของไทยจากนโยบายการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ยินดีส่งเสริมแก้อุปสรรคการค้า ให้นำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ได้แก่
1) Mr.Sith Chaisurote, President บริษัท Land & House USA, Inc. ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมและอพาร์ตเมนท์ใน California และ Yard Apartment ใน Oregon
2) Mr.Sam Lee, President บริษัท Sun Lee, Inc. ผู้นำเข้าและผู้กระจายสินค้าอาหารรายใหญ่ในสหรัฐฯ
3) Mr.Suchapong Boonsjai, President บริษัท SCG International USA, Inc. ผู้ประกอบธุรกิจส่งสินค้าเศษโลหะและกล่องกระดาษ Recycle เข้าไทย นำเข้าผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างจากไทย
ขณะที่ นายสิทธิ ชัยสุโรจ์ ประธานบริษัท Land and houses เผยภาพรวม การทำธุรกิจของแลนด์แอนเฮ้าส์ ซึ่งดำเนินงาน เรียลเอสเตทหรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในสหรัฐอเมริกา ในระยะเวลา 12 ปี ถือว่าเป็นไปอย่างราบรื่นการบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐต้องประสานได้รับความร่วมมือจากกงสุลภาครัฐของไทยสำหรับ โดยสถานการณ์ปัจจุบันภายหลังสหรัฐอเมริกาได้ประธานาธิบดีคนใหม่สำหรับธุรกิจของแลนด์แอนเฮ้าส์ถือว่าเป็นบวกต่อธุรกิจ ทั้งในเรื่องภาษีและข้อกำหนดทางกฎหมายที่ลดลง แต่ยอมรับยังมีข้อกังวลในความไม่แน่นอนของนโยบายที่จะทยอยออกมา จึงต้องดำเนินงานในรูปแบบประคับประคองเพื่อดูนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ
ขณะเดียวกันแลนด์แอนด์เฮ้าส์ได้ดำเนินกิจกรรมนอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในการจัดงาน festival ในรูปแบบต่างๆซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมการกงสุลหมาย ไทยเทรด และรัฐบาลของไทยในการเดินหน้า promote ทั้งอาหารไทย บล็อกซิ่งรวมถึงซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมารายได้จากการจัดกิจกรรม เพียงสองวันมีมูลค่ากว่า 600,000 เหรียญในปีที่ผ่านมา และขยายกิจกรรมเพิ่มขึ้น
ข่าวแนะนำ