นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Summit) ครั้งที่ 8 อย่างเป็นทางการเช้าวันนี้ พร้อมเสนอแนวคิดเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศ
เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2567 สาธารณรัฐประชาชนจีน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Summit) ครั้งที่ 8 ช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ย.67) ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การประชุมยูนนาน ไห่เกิง คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้หัวข้อหลัก “มุ่งสู่การเป็นประชาคมที่ดีกว่าเดิมด้วยการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” โดยมีประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ผู้แทนสภาธุรกิจ GMS ร่วมกับผู้นำ 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม และจีน (เฉพาะมณฑลยูนนาน และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) โดยมีวิสัยทัศน์การพัฒนาเพื่อให้เป็นอนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการมากขึ้น โดยมีเป้าหมายความเจริญรุ่งเรือง มุ่งลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนทุกคนในภูมิภาค ผ่านความร่วมมือ 3 เสาหลัก คือ การสร้างความเชื่อมโยง การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างประชาคม
ขณะที่ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 10 ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะนำเสนอแนวคิดเพื่อเตรียมความพร้อมของประเทศสมาชิกในการเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น อาชญากรรมข้ามพรมแดน ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และการบริหารจัดการน้ำ
ส่วนภารกิจเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.67) นายกรัฐมนตรี ได้พบหารือกับประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) พร้อมขอบคุณ ADB ที่ให้การสนับสนุนไทย โดยเฉพาะการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่ง ADB สนับสนุนเงินกู้ และความช่วยเหลือทางวิชาการ รวมทั้งความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจในด้านต่าง ๆ เช่น การขนส่ง พลังงาน เศรษฐศาสตร์มหภาค และนโยบายการคลัง ช่วยให้ไทยสร้างรากฐานสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยกำหนดเป้าหมายหลักในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ซึ่งไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงจำเป็นต้องสร้างการไหลเวียนของการเงินสีเขียวจากภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางกลับประเทศไทย โดยมีกำหนดเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลา 18.10 น. วันเดียวกันนี้