นายกฯ รับมอบ "สมุกปกขาว" เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจประเทศ
กกร. เข้ายื่นสมุดปกขาวต่อนายกรัฐมนตรี หวังกระตุ้น ศก.คูณสอง-ยืดหนี้สินเชื่อรถยนต์ มั่นใจปีหน้าจีดีพีไม่ต่ำกว่า 4-5%
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย นำคณะฯ เข้าหารือ พร้อมมอบสมุดปกขาวข้อเสนอทางเศรษฐกิจต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ
ด้านนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจ และโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชน เพราะประเทศไทยเจอกับปัญหาเศรษฐกิจและหนี้สินมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงเชื่อว่าการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถือเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของประเทศได้เป็นอย่างมาก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว กระทบการส่งออกในภาคเกษตรและการผลิต หนี้ครัวเรือนสูง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อุตสาหกรรมยังพึ่งพาการผลิตต้นทุนต่ำ ขาดนวัตกรรม และการพัฒนาทักษะแรงงานยังไม่ทันต่อความต้องการ ดังนั้น เรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลควรดำเนินการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจทันที 4 ประเด็นด้วยกัน คือ 1) การแก้ไขปัญหาหนี้โดยเฉพาะหนี้เสียจากสินเชื่อรถยนต์ (กระบะ) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทำมาหากินของประชาชน ส่วนนี้จำเป็นต้องมีมาตรการช่วยเหลือเป็นการเฉพาะ เช่น ยืดระยะเวลาชำระหนี้ 3–6 เดือน เป็นต้น 2) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากการแจกเงิน 1 หมื่นของรัฐบาลไปยังกลุ่มเปราะบางแล้ว โดยเสนอให้เสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะโครงการคูณสอง โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณกึ่งหนึ่ง เพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายช่วงต้นปี 2568 เช่น Easy e-Receipt และมาตรการทางภาษีอื่นๆ เป็นต้น 3) สานต่อโครงการยกระดับ 10 เมืองนำร่องสู่เมืองหลักที่ยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาหอการค้าฯ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและทีมงาน มาแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม กาญจนบุรี และราชบุรี 4) ขอให้รัฐบาลสนับสนุน Soft Power ผ่านการจัดกิจกรรม เทศกาลอวดเมือง ในจังหวัดต่างๆ รวมถึงช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดงานซีเกมส์ในปี 2568 และ เจ้าภาพการจัดงานพืชสวนโลกปี 2569 จ.อุดรธานี และในปี 2572 จ.นครราชสีมา
ทั้งนี้ ภาคเอกชนโดย กกร.ได้ระดมความเห็นจากภาคธุรกิจในสาขาต่างๆ และจัดทำเป็นสมุดปกขาวข้อเสนอทางเศรษฐกิจเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลในการพิจารณาดำเนินการทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีประเด็นข้อเสนอเป็น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 2) การช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) 3) การบริหารจัดการน้ำ และ 4) การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เชื่อมั่นว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดจะมีส่วนช่วยผลักดันข้อเสนอดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้เต็มศักยภาพ โดยมี
เป้าหมายให้ GDP ของไทยกลับมาเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4-5% ในปี 2568
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวฯ มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย
ที่มาข่าว:TNN
ข่าวแนะนำ