นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงย้ำอาเซียน-จีน คือรากฐานสำคัญของภูมิภาค
ผลสำเร็จ การประชุม และวงหารือย่อย ในเวทีอาเซียน เรียกได้ว่า ไทยเนื้อหอม หลังนายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคี ร่วมกับเวียดนาม มั่นใจบรรลุเป้าหมาย การค้าระหว่างกัน กว่า 850,000 ล้านบาท พร้อมขอเปิดเที่ยวบินตรง ระหว่างจังหวัดอุดรธานี กับเมืองต่างๆที่น่าสนใจในเวียดนาม สำหรับภารกิจวันที่ 2 ช่วงเช้านายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในเวทีสุดยอดอาเซียน-จีน ย้ำรากฐานสำคัญและสันติภาพในภูมิภาค
วันที่ 2 ในเวทีการประชุมสุดยอดอาเซียน อย่างเป็นทางการ เริ่มต้นโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - จีน ครั้งที่ 27 ซึ่งมีนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วม นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ความสัมพันธ์อาเซียน – จีน เป็นรากฐานสำคัญของสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ซึ่งยังมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนาร่วมกันในการสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่างสมาชิกอาเซียนกับ จีน ผ่านการส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน เพื่อความสันติภาพ ความมั่นคง ความเจริญรุ่งเรือง การพัฒนาที่ยั่งยืน และมิตรภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด "บ้าน 5 หลัง" (Five-Homes) ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำความร่วมมือที่ให้ความสำคัญ 3 ประการ โดยการบูรณาการทางเศรษฐกิจและความเชื่อมโยง โดยประเทศไทย ยินดีต่อความสำเร็จของการเจรจายกระดับ FTA อาเซียน-จีน 3.0 ซึ่งอาเซียนและจีนควรใช้ประโยชน์จาก RCEP และสนับสนุนการรวบรวมสมาชิกใหม่ที่รวมไปถึงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงด้วย
พร้อมให้ความสำคัญด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ซึ่งเป็นปีแห่งความร่วมมืออาเซียน - จีนว่าด้วยการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน ซึ่งต้องเสริมสร้างความเข้าใจ ความรักความสามัคคีของประชาชนในประชาคม อาเซียน กว่า 700 ล้านคนโดยจะดำเนินมาตรการยกเว้นวีซ่า อย่างต่อเนื่อง เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน และขยายโอกาสในการรับทุนการศึกษา
รวมถึงความสำคัญ ด้าน ความร่วมมือด้านความมั่นคง เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการจัดการกับประเด็นความมั่นคงรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะ ประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์และยาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งประเทศไทยยินดีต่อการมีส่วนร่วมของจีนในความพยายามของอาเซียนที่จะจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาหมอกควันข้ามแดนและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ขณะที่ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศ และผู้แทนจากเวที World Economic Forum (WEF) พร้อมพบหารือแบบทวิภาคกับนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 27 จากนั้น มีกำหนดพบหารือ ผู้ก่อตั้งและประธานสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF และ หารือ กับผู้นำอีกหลายประเทศ ในช่วงเย็นวันนี้
สำหรับผลการประชุมอาเซียนอย่างเป็นทางการวันแรก วานนี้ ภาพรวมเรียกได้ว่า ประสบผลสำเร็จ ทั้งในเวทีหารือเต็มคระและเวทีย่อย โดยประชาคมอาเซียนเห็นพ้องกันที่จะผลักดันการเดินทางในภูมิภาค และส่งเสริมให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้และพัฒนาสู่ภูมิภาคและท้องถิ่นร่วมกกัน
ทั้งนี้ทุกชาติ ที่มีการพบปะพูดคุยในวันแรกนั้น ต่างยอมรับและพร้อมร่วมมือกับไทยในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางออนไลน์ Online Scam การค้ามนุษย์ การทำลายเครือข่ายการลักลอบค้ายาเสพติดและปัญหาหมอกควัน
ขณะที่ผู้นำเวียดนาม เห็นพ้องไทย จะเร่งอำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 850,000 ล้านบาท โดยขอให้เวียดนามสนับสนุนการลงทุนของไทยในเวียดนาม โดยเฉพาะด้านปิโตรเคมี พลังงานและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งไทยและเวียดนามจะส่งเสริมความร่วมมือตามยุทธศาสตร์ Three Connects เพื่อเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน เศรษฐกิจท้องถิ่น และยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ไทยยังจะร่วมกับอาเซียน ในประเด็นของประเทศเมียนมา และจะมีบทบาทเชิงรุกมากขึ้นในการนำสันติภาพในเมียนมากลับคืนมา เพื่อความ มั่นคงและเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศในภูมิภาคนี้
ที่มาข่าว:tnn
ข่าวแนะนำ