นายกฯ เตรียมสรุปนโยบายรัฐบาล ก่อนแถลงต่อรัฐสภา

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3  พร้อมเปิดเผยถึงนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว ว่านโยบายในส่วนของพรรคเพื่อไทยทุกอย่างจะถูกสรุปในวันนี้  เนื่องจากยังมีในเรื่องของการใช้คำที่จะต้องปรับปรุงเพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจ แต่นโยบายนั้นถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว ยังคงเป็นนโยบายเดิม ส่วนนโยบายใหม่ว่าจะมีการต่อยอดในด้านใดจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน  ขณะเดียวกันต้องหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ขณะนี้ได้ทยอยส่งนโยบายเข้ามาแล้ว  และทีมงานต้องช่วยดูรายละเอียดต่างๆ จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาในวันนี้  

ส่วนนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งแนวคิดทั้งสองพรรคแตกต่างกัน นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ทราบนโยบายแล้ว จะมีการพูดคุยในรายละเอียด และจะสามารถคุยกันได้อย่างแน่นอน  ที่ผ่านมาได้มีการทำความเข้าใจกันอยู่แล้ว ซึ่งก็จะเหลือการเขียนรายละเอียดลงในร่างนโยบาย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสิ่งแรกที่จะทำหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะได้เห็นทันทีต่อจากรัฐบาลนายเศรษฐา ว่ารายละเอียดต่างๆ ให้รออีกนิด แต่สิ่งที่ตั้งใจจะทำคือการส่งเสริมการลงทุนที่นายเศรษฐาได้ทำไว้ ก็จะทำต่อ และยังมีอีกหลายเรื่อง เพราะได้มีการหารือกันแล้ว ว่าจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งมีหลายฝ่ายได้ขอความมั่นใจมาแล้ว แม้จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงเป็นพรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเหมือนเดิม ดังนั้นจะทำทุกอย่างไม่ให้คนไทยเสียโอกาส ซึ่งตนเองได้พูดคุยแบบปากเปล่าไปในหลายด้านแล้ว  และในส่วนของนโยบายค่อนข้างเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้เกิดการสะดุดและให้ประเทศไปต่ออย่างมีหลักเกณฑ์  ขณะเดียวกันยังคงเดินทางการค้าการลงทุนกับต่างประเทศต่อ ซึ่งได้พูดคุยกับหลายหน่วยงานแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในการวางตัวรองนายกรัฐมนตรีว่าจะดูแลงานด้านใด แต่ย้ำว่าจะมีการวางงานให้ดูแลอย่างแน่นอน เพื่อให้เกิดความชัดเจน  ขณะที่วิสัยทัศน์ของนายทักษิณ ชินวัตร ที่แสดงไว้ในเวทีดินเนอร์ทอล์ค Vision For Thailand 2024 เมื่อวันที่ 22สิงหาคมที่ผ่านมา จะถูกนำมาเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า  เป็น ครม.ที่ดีมาก และทุกคนมีความพร้อมที่จะสานงานต่อ  และทุกคนมารวมกันเพื่อจะเป็นพลังทำเพื่อประชาชน ให้ประเทศไปต่อ ดังนั้นหลายคนก็มีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ซึ่งทุกคนก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ตรงนี้  ทั้งนี้ตนเองยังไม่ได้ตั้งตัวชี้วัดการทำงาน ยืนยันว่า การใช้คำพูดว่าเป็น ครม.ครอบครัว หรือ ครม. สืบสันดาน เป็นคำที่รุนแรง แต่หลายคนก็ไม่ใช่คนในครอบครัว หรือเกี่ยวข้องกัน  แต่ยอมรับว่ามีหลายคู่ที่เป็นครอบครัว จึงอยากให้มองเป็นเรื่องของความตั้งใจที่ถ่ายทอดให้กันมาในคนใกล้ชิดและคนรู้จัก เพราะหลายอย่างในชีวิตที่ทำต้องอาศัยแรงผลักดัน ความภูมิใจจากคนข้างๆ และคนโดยรอบ ดังนั้นคำว่า เป็นครอบครัวไม่มีข้อเสีย เป็นเรื่องแรงผลักดันให้กันมากกว่า ที่เห็นว่าคนในครอบครัวเคยทำเพื่อประเทศ ส่งผลให้คนในครอบครัวมีแรงผลักดันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตอาจหนีไม่พ้นเรื่องการครอบงำจากคนในครอบครัว และเกิดการร้องเรียน  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สงสารนายกฯบ้าง อย่าฟ้องอะไรมาก เพราะถือว่าเป็นนายกฯที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว แต่มีความตั้งใจทำงานเต็มที่ ดังนั้นในเรื่องเล็ก ๆ  อย่าให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องฟ้องร้อง ในขณะที่คนฟ้อง ตนเองก็ขออย่าฟ้องเยอะเลย เพราะไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว 

ส่วนกังวลหรือไม่ หากต้องนั่งประธานบอร์ดที่สำคัญหลายคณะ  นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ถือว่าการได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติและได้รับการโหวตสนับสนุนจากสภา ดังนั้นจึงขอบคุณทุกคน การที่ตนเองมารับตำแหน่งนี้ ไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟัง และให้ความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ดังนั้นคิดว่าหลักคิดตรงนี้ จะทำให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น  อย่างไรก็ตาม การวิพากวิจารณ์จากบุคคลอื่นก็ไม่ทำให้ตนเองบั่นทอนจิตใจในการทำงาน ซึ่งถือเป็นสิทธิแต่ละบุคคล แต่ขอให้วิจารณ์ด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ ซึ่งขอกำลังใจกันบ้าง  

ทั้งนี้การแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี จะให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลด้านใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขอดูรายละเอียดก่อน ซึ่งจะต้องมีการแยกการทำงานของรองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามวันนี้ จะดูในเรื่องของเอกสาร แต่ไม่ได้เชิญรองนายกรัฐมนตรีเข้ามาแต่อย่างใด

ที่มาข่าว:TNN