ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! 'แพทองธาร' คว้าเก้าอี้นายกฯ คนที่ 31

วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา - การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ได้จัดขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ส่งผลให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่างลง

ในที่ประชุม นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส. สระแก้ว พรรคเพื่อไทย ได้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้รับรองด้วยการกดบัตรแสดงตนจำนวน 291 คน ซึ่งเกินกว่าจำนวนขั้นต่ำ 50 คนที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อบุคคลอื่นเพื่อชิงตำแหน่ง ทำให้ น.ส.แพทองธาร เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว

นายวันมูหะมัดนอร์ ได้ชี้แจงขั้นตอนการลงคะแนน โดยระบุว่าแม้จะมีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว แต่จะต้องมีการลงมติ โดยต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีอยู่ทั้งหมด 493 คน หรือมากกว่า 248 คะแนนเสียง สำหรับวิธีการลงคะแนน จะทำโดยเปิดเผยด้วยการขานชื่อสมาชิกทีละคนเพื่อลงคะแนน

ก่อนเริ่มการโหวต ที่ประชุมมีมติให้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีเวลาอภิปรายฝ่ายละ 20 นาที ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ผลการลงคะแนน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 

ผลการลงคะแนน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียง

 

เห็นชอบ  319

ไม่เห็นชอบ 145

งดออกเสียง 27

จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 493 

นับเป็นการเขียนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยครั้งสำคัญ เนื่องจาก น.ส.แพทองธาร จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ

ภาพ เพื่อไทย