TNN ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี: เจาะลึกมาตรา 159 รัฐธรรมนูญ 2560

TNN

การเมือง

ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี: เจาะลึกมาตรา 159 รัฐธรรมนูญ 2560

ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี: เจาะลึกมาตรา 159 รัฐธรรมนูญ 2560

เรียนรู้กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีของไทยตามมาตรา 159 รัฐธรรมนูญ 2560 พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันและความท้าทายในการเลือกผู้นำคนใหม่


ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญทางการเมือง เมื่อรัฐสภาเตรียมจัดการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในวันที่ 16 สิงหาคม 2567 บทความนี้จะพาท่านเจาะลึกกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพื่อให้เข้าใจถึงขั้นตอน กฎเกณฑ์ และความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น

การเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นขั้นตอนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 159 โดยมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้


1. การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี


พรรคการเมืองที่มี ส.ส. ในสภาไม่น้อยกว่า 25 คน (คิดเป็น 5% ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด) มีสิทธิเสนอชื่อบุคคลที่พรรคได้เคยแจ้งไว้ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตอนเลือกตั้ง

การเสนอชื่อต้องมี ส.ส. อย่างน้อย 50 คน (หรือ 1 ใน 10 ของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด) ร่วมลงชื่อรับรอง


2. การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี


สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีโดยเปิดเผย โดย ส.ส. แต่ละคนจะขานชื่อและออกเสียงลงคะแนน

ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีต้องได้คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด (ปัจจุบันคือ 247 เสียง จากจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 493 คน)


3. หากไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้


หากไม่มีผู้ใดได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง สภาผู้แทนราษฎรจะต้องเริ่มกระบวนการเสนอชื่อและลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ทั้งหมด


4. การนำความขึ้นกราบบังคมทูล


หลังจากสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้นำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง


สถานการณ์ปัจจุบัน


จำนวน ส.ส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ณ ปัจจุบัน: 493 คน

จำนวนเสียงที่ต้องการเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี: 247 เสียง

จำนวน ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล: 314 คน

จำนวน ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน: 179 คน





ภาพ TNN 

ข่าวแนะนำ