“เศรษฐา” น้อมรับคำตัดสิน หลัง ศาล รธน. ตัดสินให้พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยหลังคำตัดสินระบุว่า เคารพคำพิพากษาศาล รธน. พร้อมกับยืนยันว่าทำทุกอย่างถูก และ ซื่อสัตย์ ตนเองนั้นรู้สึกเสียใจศาล รธน.ตำหนิเป็นนายกฯ ที่ไม่มีจริยธรรม ในขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะสานต่อนโยบายหรือไม่
เมื่อเวลา 15.50 น. ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ในกรณีการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภา 40 คน ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติด้านความซื่อสัตย์สุจริต ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง
กรณีเสนอแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ที่เคยถูกพิพากษาโทษจำคุก นายเศรษฐาย่อมต้องรู้คุณสมบัติต้องห้ามของนายพิชิตก่อนแต่งตั้งแล้ว จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ และศาลรัฐธรรมนูญยังเห็นว่านายกรัฐมนตรีจะต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการพิจารณาแต่งตั้งผู้ที่เหมาสมด้วยไม่เพียงการอ้างความเห็นของกฤษฎีกาเท่านั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง จึงเป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย
โดยที่ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดเผยหลังคำตัดสินระบุว่า เคารพคำพิพากษาศาล รธน. พร้อมกับยืนยันว่าทำทุกอย่างถูก และ ซื่อสัตย์ ตนเองนั้นรู้สึกเสียใจศาล รธน.ตำหนิเป็นนายกฯ ที่ไม่มีจริยธรรม ในขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่ จะสานต่อนโยบายหรือไม่
นายเศรษฐากล่าวต่อด้วยว่า ในส่วนนโยบายของรัฐบาลนี้ที่ประกาศออกไปแล้ว ผู้ที่มารับตำแหน่งจะดำเนินการต่อไปหรือไม่นั้นตอบไม่ได้ เพราะไม่ทราบจริงๆ ว่าใครเป็นนายกฯ ไม่ทราบว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ซึ่งต้องให้เกียรติกับรักษาการนายกฯ และนายกฯ คนต่อไปเช่นกัน
“จะเป็นพรรคร่วมหรือพรรคเพื่อไทย ถ้าเปลี่ยนผู้นำแล้ว เขาก็มีสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตามที่เห็นสมควร" นายเศรษฐากล่าว
"อันนี้เราต้องยอมรับว่าเราหมดหน้าที่แล้วตอนบ่ายสามโมงครึ่งวันนี้ นายกฯ คนต่อไปจะมาจากพรรคอะไรก็ตามที ผมยอมรับตามกระบวนการของรัฐสภา” นายกฯ คนที่ 30 กล่าวทิ้งท้าย(เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67)
ภาพโดย: ธนาชัย ประมาณพาณิชย์
อัลบัมรูปภาพ 12ภาพ
ข่าวแนะนำ