TNN นายกฯเร่งพัฒนา "อู่ตะเภา" รองรับเชิงพาณิชย์

TNN

การเมือง

นายกฯเร่งพัฒนา "อู่ตะเภา" รองรับเชิงพาณิชย์

นายกฯเร่งพัฒนา อู่ตะเภา รองรับเชิงพาณิชย์

นายกรัฐมนตรี ใช้วันหยุดสัปดาห์ ลงพื้นที่ติดตามงานตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี โดยเฉพาะการเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับการค้า และ การส่งเสริมการท่องเที่ยว

การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาพร้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรองนายกรัฐมนตรีและรัฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อหารือประเด็นปัญหาและการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับการลงทุนในพื้นที่ EECพร้อมติดตามพื้นที่ก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยเฉพาะโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ปัจจุบันมีความก้าวหน้าโดยเฉพาะงานด้านระบบสาธารณูปโภคที่สำคัญ ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น ก่อสร้างแล้ว 26.42 ระบบบริการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน ก่อสร้างแล้วร้อยละ 48.41 งานด้านประปาและบำบัดน้ำเสีย ก่อสร้างแล้วร้อยละ 98.44 เป็นต้น
 
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ระบุว่าการสนามบินอู่ตะเภา การบริการจัดการพื้นที่ อีอีซี และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ล้วนเป็นโครงการใหญ่ ที่สำคัญของรัฐบาล โดยรัฐบาลนี้ตระหนักดีถึงความสำคัญหารเชื่อมโยงสนามบิน ซึ่งถือว่าล่าช้าอยู่มาก ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงมองว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องยกระดับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ นอกจากนี้ยังสอบถามถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เริ่มโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินให้ได้


นายกฯเร่งพัฒนา อู่ตะเภา รองรับเชิงพาณิชย์


นายกฯเร่งพัฒนา อู่ตะเภา รองรับเชิงพาณิชย์



 


ส่วนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่าลงทุน 204,240 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี นี้ เพื่อเริ่มก่อสร้างงานสำคัญ ๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572
 
 
ขณะที่คืบหน้าการลงทุนในพื้นที่ EEC ขณะนี้มีภาคเอกชนได้เข้ามาหารือกับ EEC และสนใจใช้สิทธิประโยชน์ตามประกาศสิทธิประโยชน์ฉบับใหม่อยู่กว่า 30 ราย วงเงินลงทุนรวมกว่า 2.1 แสนล้านบาท ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่ได้ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ได้แก่ อุตสาหกรรมการแพทย์ และสุขภาพ อุตสาหกรรมบริการ อุตสาหกรรมดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และอุตสาหกรรม BCG โดย EEC ได้ตั้งเป้าหมายดึงเม็ดเงินลงทุนจริง ให้ได้ปีละ 1 แสนล้านบาท ต่อเนื่อง 5 ปี ตั้งแต่ ปี 2567 – 2571

 

นอกจากนี้ช่วงบ่ายจะไปดูเส้นทางการแข่งขัน F1 ที่บริเวณเขาพระตำหนัก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะไปยัง ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อติดตามและเร่งรัดการสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3


ที่มาข่าว:TNN

ที่มาภาพ:TNN

ข่าวแนะนำ