TNN นายกรัฐมนตรี สั่งดูแลกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพิ่มศักยภาพเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

TNN

การเมือง

นายกรัฐมนตรี สั่งดูแลกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพิ่มศักยภาพเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี สั่งดูแลกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพิ่มศักยภาพเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

ครม. สัญจร นายกรัฐมนตรี สั่งรมว.ท่องเที่ยวฯ ดูแลและเพิ่มศักยภาพกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว

ครม. สัญจร นายกรัฐมนตรี สั่งรมว.ท่องเที่ยวฯ ดูแลและเพิ่มศักยภาพกลุ่มจังหวัดเมืองรอง เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว


วันนี้ (4 ธันวาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (หนองบัวลำภู บึงกาฬ เลย หนองคาย และอุดรธานี) ว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เสนอปัญหาและแนวทาง และ KPI ในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดินเกษตร การให้เอกสารสิทธิ์ เรื่องความยากจน ซึ่งจะยกระดับรายได้ขึ้นมาผ่านกระบวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผล ส่วนเรื่องยาเสพติดถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งทุกจังหวัดต้องมีการบำบัดและจัดการกับผู้ขายอย่างชัดเจน


ส่วนด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดเหล่านี้ถือเป็นเมืองรอง และมีสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหารการกินที่น่าสนใจ ตนเองได้สั่งการไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า ให้มาดูแลเป็นพิเศษ และกำชับสำนักงานท่องเที่ยวประจำจังหวัดนั้น ๆ ให้มาดูแลและเพิ่มศักยภาพ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดเหล่านี้


นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จังหวัดหนองบัวลำภูที่มีรายได้ต่อหัวต่ำสุด ครม. ได้พิจารณาเรื่องการทำฝาย เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ทั้งหมด 92 ฝาย และสั่งการให้กรมประมง นำพันธุ์สัตว์น้ำไปปล่อยด้วย เพื่อให้ประชาชนสามารถหาปลาได้ 


นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า สาเหตุที่ความเจริญยังไม่มาถึงจังหวัดหนองบัวลำภู เนื่องจากการคมนาคมยังไม่ดีพอ ครม.จึงได้มีการพิจารณาหลาย ๆ เส้นทาง เพื่อเชื่อมต่อกับหลาย ๆ จังหวัด เพื่อกระตุ้นความเจริญให้เกิดขึ้นได้


นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป ว่า ทางนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้ให้สถานีกลางบางซื่อ เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป หรือ ดีพาร์ทเม้นสโตร์ของโอทอป โดยจะมีการพัฒนาหน้าร้านที่เหมาะสม ส่วนการค้าขายออนไลน์ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมมือกันจัดทำแฟลตฟอร์ม เพื่อให้เข้าถึงสินค้ามากขึ้น



ภาพจาก รัฐบาลไทย

ข่าวแนะนำ