TNN เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร ชิงทองหาเงินคืนวัด

TNN

ภูมิภาค

เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร ชิงทองหาเงินคืนวัด

เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร  ชิงทองหาเงินคืนวัด

ตำรวจชุมพรคุมเข้มทำแผน ไวยาวัจกร วัด ผู้ต้องหาคดีชิงทองห้างดังชุมพร หาเงินคืนวัดหลัง นำเงินกว่า 1 ล้านบาท ไปเล่นการพนัน และถูกตรวจสอบ เพราะพระยกวัดถูกจับสึกเหตุยาเสพติด

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รองผบก.ภ.จ.ชุมพร พันตำรวจเอกธานี  นาคหกวิค  ผกก.สส.ภจว.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่นำตัวนายดล อายุ 38 ปี ไวยาวัจกร  คนร้ายจี้ชิงทอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพสาขาชุมพร  ภายในห้างบิ๊กซี หลังจากที่เจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามตัว จนสามารถจับกุมตัวได้  


พฤติกรรมในการก่อเหตุ โดยนายดล รับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจี้ชิงทองจริง เนื่องจากติดการพนัน และได้นำเงินวัดจำนวน 1 ล้านกว่าบาท ไปเล่นการพนันจนหมด และในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ จะมีการทอดกฐิน ที่วัดเขาแก้ว ซึ่งตนเองเป็นไวยาวัจกรอยู่ที่นั้น จึงเกรงว่า จะถูกตรวจสอบเงิน  จึงได้วางแผนที่จะหาเงินมาคืนวัดให้ทันงานกฐิน จึงได้พยายามศึกษาการก่อเหตุในคดีต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ประกอบกับดูหนังฝรั่งเกี่ยวกับการจรกรรม จนนำมาสู่การวางแผนที่จะปล้นทองที่ห้างทองเยาวราชสาขาชุมพร  ประกอบกับตนได้มาออกกำลังกายที่ห้างแห่งนี้ จึงรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี  และได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร  ชิงทองหาเงินคืนวัด



นายดล ยังสารภาพอีกว่า ได้นำทองส่วนหนึ่งไปขาย ส่วนหนึ่งไปจำนำ  และอีกส่วนหนึ่งได้เก็บไว้ที่บ้าน  ส่วนหลักฐานที่จะนำมาสู่การจับกุมไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าก็ได้นำไปแอบซ่อนไว้ส่วน มอเตอร์ไซต์นั้นไปจอดทิ้งไว้ข้างทางพร้อมเสียบกุญแจไว้ เพราะคิดว่าตำรวจจะต้องติดตามยานพาหนะที่ก่อเหตุ และดูกล้องวงจรปิดเส้นทางในการหลบหนี  และหากมีคนมาเจอและพบว่ามีกุญแจเสียบอยู่ คนที่ขับรถไปก็จะตกกระไดพลอยโจรตำรวจก็จะมุ่งไปที่คนที่เอารถไป 



เปิดคำสารภาพ-ทำแผน ไวยาวัจกร  ชิงทองหาเงินคืนวัด


หลังจากนั้นตนเองก็ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและทำหน้าที่พิธีกรรมทางศาสนา จนกระทั่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกจับพระเสพยาเสพติดจนหมดวัด  และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินเงินทองภายในวัดซึ่งพบว่าเงินได้หายไปจากบัญชี 1,070,000  บาท ตนเองยอมรับว่าเป็นคนเอาเงินไปเอง  และนายดล แจ้งว่าจะรับผิดชอบเงินจำนวนดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้โอนเงินเข้าบัญชีวัด จำนวน 1 ล้าน ส่วนอีก 70,000  จะไปกดเงินให้ทำให้คณะกรรมการเกิดข้อสงสัยที่มาที่ไปของเงินจำนวนดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ เพราะสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุชิงทองที่ตำรวจเคยมาควานหาหลักฐานในการก่อเหตุที่คนร้ายอาจนำมาทิ้งไว้  และเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายดล ไปสอบพบว่านายดลให้การมีพิรุจหลายอย่าง จึงนำตัวไปตรวจค้นภายในบ้านก็พบหลักฐาน เสื้อผ้า หลักฐานใบจำนำทอง จนนำมาสู่มาซึ่งการจับกุมและทำแผนในครั้งนี้


สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายดล ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ทองรูปพรรณหนัก 80 บาท ที่ร้านทองเยาวราช แยกเป็นทองของร้าน 75 บาท ทองรูปพรรณที่ลูกค้านำมาจำนำอีก 5 บาท รวมมูลค่าทองคำทั้งหมดราคา 2,481,750 บาท ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาชุมพร ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ขณะลงมือมีกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ หลังก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 เอส สีน้ำเงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป่ายทะเบียนหลบหนีไป ก่อนถูกจับกุมได้เมื่อวานที่ผ่านมา โดยนายดล เป็นไวยาวัจกร วัดแห่งหนึ่งใน หมู่ 5 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 


และจากการตรวจค้นในบ้านของผู้ต้องหาเบื้องต้นพบตั๋วจำนำจากร้านทองนอกพื้นที่จำนวน 13 ใบ รวมน้ำหนักทองคำรูปพรรณที่จำนำกว่า 20 บาท และสร้อยคอ 21 เส้น น้ำหนัก 21 บาท พร้อมกับแหวน ต่างหู สร้อยคอ ของลูกค้าที่นำมาจำนำอีก 5 บาท หมวกไหมพรม สีดำและสีเทา 2 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในบ้านของผู้ต้องหา ใน ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร 


ทั้งนี้พฤติกรรมการจับกุมสืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางทางที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปสิ้นสุดหายที่บริเวณใกล้กับวัดปากแพรก หมู่ 2 ตำบลนากระตาม อ.ท่าแซะ ซึ่งอยู่ห่างจากวัด หมู่ 5 ตำบลนากระตามประมาณ 10  กิโลเมตร ส่วนด้านหลังของวัดทั้ง 2 แห่ง มีลำคลองไหลผ่าน จึงได้จัดชุดประดาน้ำออกค้นหารถจักรยานยนต์ ช่วงระหว่างวัดปากแพรกถึงวัด ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปจมทิ้งไว้ในคลองดังกล่าว 

  

จากการค้นหารถจักรยานยนต์มาจนถึงคลองใกล้หลังวัด เจ้าหน้าที่สังเกตว่าทั้งเจ้าอาวาสวัดและพระลูกวัด รวม 4 รูป มีพฤติกรรมน่าสงสัย เข้าไปอยู่ในกุฎิไม่ออกมาดูและให้ข้อมูลใด ๆกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบกับมีชาวบ้านแจ้งว่าวัดดังกล่าวทั้งเจ้าอาวาสและพระลูกวัดมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากนั้นตำรวจชุดสอบสวนภูธรจังหวัดชุมพร และชุดสืบสวนภูธรภาค 8 จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรม 

  

กระทั้งช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย.64 พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร จึงสนธิกำลังทั้งตำรวจท้องที่ ตำรวจ ปปส.และฝ่ายปกครองเข้าตรวจค้นภายในวัด พบยาเสพติดและอุปกรณ์การเสพยา  จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวทั้งเจ้าอาวาส และพระลูกวัดทั้งสามรูปไปตรวจปัสสาวะ ซึ่งปรากฏว่าทั้งเจ้าอาวาส พระลูกวัด รวม 4 รูป  และ นายวัชรินทร์ ผลออกมาเป็นสีม่วงทุกคน โดยทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าได้ซื้อยาบ้ามาเสพกันจริง จึงนำตัวไปสึกและส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย




ภาพจาก : ผู้สื่อข่าว จ.ชุมพร 

ข่าวแนะนำ