ยายบอกพอแล้ว! หลังยอดบริจาค 7.2 ล้าน-ลูกเตรียมเบิกสร้างบ้านใหม่ให้แม่
ยอดมากกว่า 7 ล้าน 2 แสนบาท ยายเผยมีลูกสาวที่เลี้ยงดูและไว้ใจได้ ส่วนลูกชายหายไปกว่า 30 ปีเพิ่งกลับมา สำหรับเราชนะที่ไปลงทะเบียนยังไม่ถูกตัดสิทธิ์
จากที่นางน้อย เอี่ยมสะอาด อายุ 81 ปี และนายจำเนียร เอี่ยมสะอาด อายุ 62 ปี 2 คนแม่ลูกอยู่บ้านเลขที่ 77/1 ม.10 ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ไปลงเราชนะที่ธนาคารที่ อ.คลองขลุง และนั่งป้อนข้าวกันจนถูกถ่ายคลิปและดังทั้งโซเชี่ยว จนได้รับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญทั่วประเทศล้นหลาม
ความคืบหน้าเรื่องนี้จากการเดินทางไปที่บ้านของนางน้อย พบนางเล็ก บุญทัด อายุ 60 ปี ลูกสาวคนรองกำลังทำกับข้าวให้ยายน้อย โดยมีต้มข่าไก่ และไข่ต้มพะโล้ พร้อมทั้งดูแลนางน้อยอย่างใกล้ชิด จากการพูดคุยนางเล็ก บอกว่าไม่อยากเป็นข่าวแล้ว เนื่องจากมีคนบอกว่าพอแม่มีคนบริจาคช่วยเหลือก็มาหา แต่ความจริงแล้วตนเป็นคนเลี้ยงดูมาเพียงคนเดียว
ส่วนนายจำเนียร น้องชายหายไปกว่า 30 ปี เพิ่งกลับมาอยู่กับแม่ได้แค่ 5-6 เดือนเท่านั้น เดิมก็อยู่ไม่ห่างจากที่นี่ แต่หลังจากมีครอบครัวไปแล้วก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น ต่อมาก็เลิกรากับเมียแล้วก็หายไป เพิ่งกลับมาอยู่ไม่นานเมื่อเป็นพี่น้องกันก็ต้องเลี้ยงดูกันไป มีน้องที่ภาคใต้และตนส่งเงินส่งของมาให้ใช้เป็นประจำ ถามชาวบ้านหรือผู้ใหญ่บ้านก็จะทราบดี
สำหรับเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคมา จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาช่วยกันดูแลนั้นก็เห็นดีด้วย เวลาจะเบิกต้องใช้คณะกรมการ 3 ใน 4 เซ็นต์เบิกด้วยกัน เพื่อป้องกันคำครหาของคนทั่วไป ตามที่พูดคุยกันว่าจะให้เบิกมาใช้เป็นรายเดือน เมื่อฉุกเฉินเกิดยายเจ็บป่วยจะได้พาไปหาหมอรักษาได้ทัน ก็เห็นชอบด้วย แต่ในเบื้องต้นจะต้องการสร้างบ้านให้แม่อยู่ก่อน เพราะบ้านหลังเก่าชำรุดแล้วเวลาน้ำมาก็ท่วมจึงไม่ปลอดภัย
ทางด้านนางน้อย เปิดเผยว่า ปกตินางเล็ก ลูกสาวเป็นมาดูแลคนเดียว ลูกชายที่หายไปนานเพิ่งกลับมาอยู่ด้วยไม่นาน ส่วนเงินที่ผู้ใจบุญช่วยเหลือมาไว้ใจให้ลูกสาวดูแล เพราะเป็นคนดูแลช่วยเหลือมาตลอดเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ลูกชายก็จะหายไปเรื่อยไม่ค่อยอยู่บ้าน ต่อมานายจำเนียร ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างกลับมาพร้อมกับสุนัข โดยบอกว่าไปเที่ยวบ้านเพื่อนและซื้อของกลับมาให้แม่ และยอมรับว่าหายจากบ้านไปประมาณ 30 ปีจริง เนื่องจากเลิกรากับเมียจึงเตลิดไปทั่ว จนแม่และน้องสาวทำบุญให้โดยคิดว่าตนได้ตายไปแล้ว
สำหรับยอดเงินบริจาคสรุปเมื่อเวลา 9.00 น.ปรากฏว่ามีผู้บริจาคเข้ามาเป็นเงินถึง 7,200,000 บาทเศษแล้ว ซึ่งทางครอบครัวของนางน้อย ได้ขอให้ผู้ใจบุญหยุดบริจาค เพราะได้เงินจำนวนมากพอใช้แล้ว ส่วนการไปลงทะเบียนเราชนะก็ยังไม่ถูกตัดสิทธิ์แต่อย่างใด