นครพนมเร่งอพยพร้านค้าชั้นใต้ดินลานพญานาคหนีน้ำโขงสูงสุดรอบปี -กระทบนาข้าว กว่า 7 หมื่นไร่ในพื้นที่ 4 อำเภอ
ที่นครพนมพ่อค้าเร่งอพยพสินค้าออกจากชั้นใต้ดินลานพญานาค หนีน้ำโขงสูงสุดรอบปีและท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 7 หมื่นไร่ ส่วนบึงกาฬน้ำโขงสูงขึ้นอีกเท่าปี 61 สั่งปิดด่านผ่อนปรนใน อ.ปากคาด ด้านจังหวัดหนองคายเช้านตี้ น้ำโขงสูงอีก 17 เซนติเมตร
เช้านี้ (15ก.ย.67) จ.นครพนม ระดับน้ำโขงยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่เอ่อล้นเข้าท่วมตัวเมืองในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงพื้นที่ชายแดนติดน้ำโขง 4 อำเภอ มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม ถึงแม้ระดับน้ำใกล้จุดล้นตลิ่ง แต่ยังรับน้ำได้อีกจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 4 -5 เมตร เนื่องจากมีเขื่อนป้องกันตลิ่งสูง ล่าสุด น้ำโขงอยู่ที่ระดับประมาณ 11.50 เมตร ห่างจากจุดวิกฤต ประมาณ 50 เซนติเมตร คือ ที่ 12 เมตร ถือเป็นจุดเตือนภัยที่ต้องเฝ้าระวัง แต่มีพื้นที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำโขง เริ่มได้รับผลกระทบเอ่อท่วมพื้นที่การการเกษตรนาข้าว ยังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน ย่านเศรษฐกิจสำคัญ
ทางจังหวัดนครพนม ยังเตรียมพร้อมประสานทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมพร้อม เฝ้าระวัง เตือนประชาชน จัดเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง ในพื้นที่เสี่ยงอำเภอชายแดนติดน้ำโขง รวมถึงพื้นที่ติดลำน้ำสาขา โดยผลกระทบที่น่าห่วงคือ หากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จะต้องมีการวางแผนระบายน้ำลงสู่น้ำโขง เนื่องจากจะมีมวลน้ำไหลระบายลงน้ำโขงช้า ทำให้เอ่อท่วมชุมชน ย่านเศรษฐกิจ และวางแผนป้องกันไม่ให้น้ำโขงไหลย้อนเข้าชุมชน ในจุดระบายน้ำต้องปิดกั้นทุกจุด ขณะที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า เร่งอพยพร้านค้าออกจากแหล่งท่องเที่ยวชั้นใต้ดินลานพญานาค องค์พญาศรีสัตตนาคราช
สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักของ จ.นครพนม จะเป็นพื้นที่ การเกษตรนาข้าว ที่อยู่ติดกับลำน้ำสาขาสายหลัก มีลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม เนื่องจากเป็นจุดรวมน้ำอูน ไหลมาบรรจบลำน้ำสงคราม ก่อนไหลระบายลงสู่น้ำโขง ที่ อ.ท่าอุเทน แต่ระดับน้ำโขงสูง จึงไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงไงด้ จนมีปริมาณเกินความจุเอ่อล้นพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ 4 อำเภอ อ.ศรีสงคราม อ.นาทม อ.ท่าอุเทน อ.นาหว้า รวมเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบกว่า 72,000 ไร่ หนักสุดพื้นที่ลุ่มน้ำอูน ลุ่มน้ำสงคราม อ.สรีสงคราม กระทบกว่า 45,000 ไร่ โดยหน่วยงานเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสำรวจให้การช่วยเหลือชดเชยเยียวยา
ขณะที่ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดบึงกาฬ เช้าวันนี้วัดได้ 13.40 เมตร เพิ่มขึ้นจากเย็นวานนี้ 10 เซนติเมตร อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 0.60 เมตร (ระดับตลิ่ง 14.00 ม.) ส่งผลให้ในพื้นที่บริเวณลานพญานาค ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ที่ถูกน้ำโขงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ และชุมชนลุ่มต่ำที่อยู่ตามซอกซอยใกล้ลานพญานาค ในเขตเทศบาลตำบลปากคาด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 10 -20 ซม. โดย นายนายทวี ชณรงค์ นายอำเภอปากคาด สั่งการให้เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปากคาด / ทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 26 สำนักงานพัฒนาภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา / ทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 เร่งเสริมกระสอบทรายให้กับบ้านเรือนประชาชนขึ้นอีก พรั้อมสั่งการให้กองร้อนอาสารักษาดินแดนอำเภอปากคาด เข้าเก็บสัมภาระ อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ออกจากอาคารด่านชั่วคราว(จุดผ่อนปรน) อ.ปากคาด – บ้านทวย หลังระดับน้ำสูงขึ้น พร้อมประสานฝั่ง สปป.ลาว แจ้งชาวบ้านที่จะนำสินค้าข้ามมาจำหน่ายในตลาดนัดไทย-ลาว ในวันพรุ่งนี้ ทางการไทยของดการเปิดด่านชั่วคราว จนกว่าระดับจะลดลง
ด้านในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองบึงกาฬ เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขง เริ่มไหลย้อนกลับเข้าตามท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขงแล้ว โดยเฉพาะบริเวณหนองบึงกาฬ ที่มีน้ำโขงไหลย้อนกลับมาตามลำห้วยก้านหญ้า ในพื้นที่บ้านนาโนน ม.4 ต.บึงกาฬ ไหลทะลักเข้าท่อข้ามมาหาหนองบึงกาฬ ที่เป็นพื้นที่รับน้ำในเขตเทศบาลเมืองแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองบึงกาฬ และทหารเรือ นรข. จากสถานีเรือบึงกาฬ เร่งนำกระสอบทรายเข้าปิดกั้นท่อระบาย เพื่อชะลอความเร็วของน้ำ
ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ในวันนี้ (15 ก.ย.67) เป็นวันที่ 4 ที่น้ำโขงทะลักเข้าพื้นที่ในหลายจุดของอำเภอเมืองหนองคาย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ถนนริมโขงและถนนประจักษ์ศิลปาคม น้ำไหลเข้าท่วมเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องกัน เนื่องจากระดับน้ำโขงมีปริมาณมาก ล้นตลิ่ง ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 13.82 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 17 เซนติเมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.62 เมตร ท้องฟ้าโปร่ง ซึ่งน้ำโขงยังได้บ่าไปตามท่อระบายน้ำและลำรางสาธารณะ รวมถึงน้ำในลำน้ำสาขาก็ไม่สามารถไหลออกได้ ทำให้น้ำล้นท่วมกระจายไปในหลายชุมชน ระดับน้ำสูงประมาณ 50-80 เซนติเมตร
ภาพข่าวผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม
ภาพข่าวผู้สื่อข่าวจังหวัดบึงกาฬ
ภาพข่าวผู้สื่อข่าวจังหวัดหนองคาย
ข่าวแนะนำ