ชาวนาทุ่งเชียงรากรีบเกี่ยวข้าวหนีน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ยังต้องจับตาใกล้ชิด ปริมาณน้ำเหนือไหลเข้าเขื่อนเริ่มทรงตัว ล่าสุดวัดได้ 1,434 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมวลน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้นจากร่องมรสุมและอิทธิพลของพายุยางิ และเพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน 

อย่างไรก็ตามการระบายน้ำในเกณฑ์นี้ ยังส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหงัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะยกตัวขึ้น 3-5 เซนติเมตร บ้านเรือนในพื้นที่ดังกล่าวจึงควรเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้าน ชาวนาในพื้นที่ทุ่งเชียงราก แก้มลิงรับน้ำในตำบลเขาแก้ว อำเภอสรรพยา ต่างเร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่เข้าเกณฑ์อายุ เพื่อเลี่ยงปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมจากการผันน้ำเข้าทุ่ง เพื่อพักน้ำไม่ให้ไหลหลากลงสร้างความเสียหายให้พื้นที่ลุ่มภาคกลาง โดยเดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจและกรุงเทพมหานคร ชาวนาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ปีนี้น้ำมาเร็ว ประกอบกับฝนที่ตกชุกในพื้นที่ ทำให้เริ่มไม่ไว้วางใจสถานการณ์ ต้องรีบจองคิวรถเกี่ยวข้าวมาเก็บเกี่ยวข้าวก่อนจะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

ที่มาภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.ชัยนาท