ไฟป่าแม่ฮ่องสอนยังลุกโชน! พบจุดความร้อนวันนี้สูงถึง 435 จุด
สถานการณ์ไฟป่าแม่ฮ่องสอน ยังเกิดขึ้นอย่างหนัก พบจุดความร้อนวันนี้สูงถึง 435 จุด ทำค่าฝุ่นพิษเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง กระทบต่อประชาชนอย่างหนัก
วันที่ 29 มีนาคม 2567 ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ส่วนหน้าภาคเหนือ) ได้รายงานข้อมูล hotspot จากดาวเทียม Suomi NPP (ระบบ VIIRS) รอบเช้า พบไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนสูงที่สุดในภาคเหนือ คือพบจุดไฟป่าจำนวน 435 จุด ประกอบด้วย อ.ปาย 50 จุด , อ.ปางมะผ้า 7 จุด , อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 68 จุด , อ.ขุนยวม 67 จุด , อ.แม่ลาน้อย 38 จุด, อ.แม่สะเรียง 134 จุด และ อ.สบเมย 71 จุด
จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน พุ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว วัดได้ ค่ารายชั่วโมง 242.2 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ย 150.4 สูงที่สุดของภาคเหนือ และส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหนักและต่อเนื่อง สำหรับจุดไฟป่าของวันที่ 28 มีนาคม 2567 พบจุดไฟป่ารวมทั้งหมด ( ภาคเช้าและภาคบ่าย ) จำนวน 562 จุด ถือว่าหนักมากสุดของภาคเหนือเช่นกัน
นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผอ.สำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากการที่ทางนายกรัฐมนตรี ท่านเศรษฐา ทวีสิน ที่พิจารณางบกลางในการจัดจ้างพี่น้องประชาชน มาร่วมกันเฝ้าระวังการลอบเผาป่าก็ถือว่าจะเป็นการควบคุมไฟป่าได้มากกว่าเดิม โดยในส่วนของกรมอุทยานของแม่ฮ่องสอน ได้รับงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา และได้มีการว่าจ้างประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมปฏิบัติงานในการดับไฟป่า จำนวน 1,359 คน โดยมีการแบ่งกำลัง ออกเป็นชุด ๆ จะมีชุดเฝ้าตรวจ ชุดลาดตระเวน และ ชุดดับไฟป่า ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแต่ละพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าได้ผลดีมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามไฟป่าที่เกิดขึ้นบางจุด เป็นเทือกเขาสูงชัน ไม่สามารถขึ้นไปดับไฟป่าได้ จึงได้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยการเผาป่าให้ไฟชนกันกลางภูเขา ซึ่งจะทำให้ไฟเมื่อมาเจอกันก็จะมอดดับไปทันทีและเป็นช่วงเวลาที่สั้น ๆ ไม่ก่อให้เกิดควันไฟป่าสะสมมากขึ้นแต่อย่างใด สาเหตุของไฟป่าส่วนหนึ่งยอมรับว่าเกิดจากคนต่างด้าวที่แฝงเข้ามาอาศัยในพื้นที่ป่าสาละวินเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนพวกนี้ใช้วิธีการเดินเท้าที่คล่องแคล่ว เดินหาของป่าแบบนอนแรมคืนไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้มีการเผาป่าเป็นบริเวณกว้าง
ข่าวแนะนำ