เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เผยรายชื่อผู้เสียชีวิต หลังพิสูจน์อัตลักษณ์ 3 ราย
คืบหน้าเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เผยรายชื่อผู้เสียชีวิตหลังพิสูจน์อัตลักษณ์ 3 ราย ด้าน ผบ.ทร. ลงนามตั้งคกก.สอบเหตุการณ์แล้ว
วันนี้ ( 26 ธ.ค. 65 ) เวลา 11.30 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในวันนี้กองทัพเรือยังคงดำเนินการ เร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 และ เรือ ต.270 รวมถึง เรือ อากาศยาน ทั้งของกองทัพเรือ รวมถึงหน่วยงานต่างๆทั้ง กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาพื้นที่ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. รวมถึง หน่วยงานต่างๆของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ในขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ก็ยังคงมีการจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เรือหลวงนเรศวร ได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 1 ร่าง และจะกลับขึ้นฝั่งที่อำเภอบางสะพาน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลต่อไป
จากการที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า พบร่างผู้เสียชีวิตสวมเสื้อ กองทัพเรือ มาขึ้นฝั่งบริเวณ ชายหาดบ้านดอนเค็ด อำเภอสทิง พระจังหวัดสงขลาเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้นั้น จากการตรวจสอบหลักฐานและบัตรประจำตัว พบว่า ศพที่พบ เป็นลูกเรือประมงทรัพย์สุนันท์ 9 ซึ่งจมลงเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เช่นกันโดยทางญาติได้ยืนยันตัวบุคคลแล้ว ว่าชื่อ นายสาโรจน์ บินโด
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น ในขณะนี้ กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตั้ง คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งประกอบด้วย คณะอนุกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ และคณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ คณะกรรมการฝ่ายต่างๆก็ได้เร่ง ดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป
ทั้งนี้เวลา 13.00 น. พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอกอัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และในเวลา 15.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมข้าราชการและกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่ จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับร่างพลทหาร วรพงษ์ บุญละคร กำลังพลหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานทางรักษาฝั่งร่วมกับกำลังพลอีก 3 นายซึ่งได้รับการยืนยันตัวบุคคลจากผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ประกอบด้วย
- จ่าตรี ศราวุธ นาดี กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย
- พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
- พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
ซึ่งจะเคลื่อนศพ จาก กองบิน 6 ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จาก ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยัง สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะนำร่างไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ ในเวลา 17:00 น
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 26 ธันวาคม 2565) เวลา 11.30 น.
ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 10 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 8 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 11 นาย
( ยังไม่นับรวมเคสที่เจอล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ รอผลและหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ จึงจะมีการตัดยอด )
ข้อมูลจาก : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
ภาพจาก : กองทัพเรือ Royal Thai Navy