TNN กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" แล้ว 75 นาย

TNN

ภูมิภาค

กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" แล้ว 75 นาย

กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย แล้ว 75 นาย

กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยเหลือกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" แล้ว 75 นาย ยังเหลืออีก 33 นายลอยคออยู่ในทะเล เร่งค้นหาและช่วยเหลือ

กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยเหลือกำลังพล "เรือหลวงสุโขทัย" แล้ว 75 นาย ยังเหลืออีก 33 นายลอยคออยู่ในทะเล เร่งค้นหาและช่วยเหลือ


วันนี้( 19 ธ.ค.65) เวลา 08.00 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ 


ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง


ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง 


ต่อมาเรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี  เรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล 


ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนีเรือต่าง ๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป 


ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป 


นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier  และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป


กองทัพเรือ โดย กองเรือยุทธการ ได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย  ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ 


ทั้งนี้ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038 182 435 และ 084 002 3554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย


 สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป  



กองทัพเรือ แจงไทม์ไลน์ช่วยกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย แล้ว 75 นาย



ภาพจาก กองทัพเรือ Royal Thai Navy

ข่าวแนะนำ