"อนุชา" ลงพื้นที่อุบลฯขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านภาคอีสาน-ยกระดับคุณภาพชีวิต
"อนุชา นาคาศัย" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่อุบลราชธานี ขับเคลื่อนกองทุนหมู่บ้านภาคอีสาน เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต ย้ำประชาชนต้องมีวินัยในการใช้ชีวิต
วันนี้ (9 ก.ค.65) ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน จ.อุบลราชธานี จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมี นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญพล นาคประเสริฐ ผู้อํานวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ และสมาชิกกองทุนหมู่บ้านร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ยกระดับชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการสนับสนุนการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างรายได้ พัฒนาอาชีพผ่านการกลไกการสนับสนุนของกองทุนหมู่บ้านฯ
นายอนุชา กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากตามแนวคิดการพัฒนา Local Economy โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองสู่การเป็นกองทุน 4.0 ทั้งด้านกฎหมาย ด้านระบบการบัญชี ด้านการพัฒนาธุรกิจ ด้านเทคโนโลยี ตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ขอให้กองทุนหมู่บ้านใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยเฉพาะช่องทาง Online ขอให้นำไปปรับใช้ต่อการดำเนินงาน ให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้รับประโยชน์จากการเผยแพร่สินค้าและบริการผ่านช่องทาง Online หวังให้ช่วยส่งเสริมการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมากขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาล มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เน้นยกระดับพัฒนาอาชีพ ให้เป็นไปตามโมเดล “BCG Economy Model” ให้ความสำคัญเศรษฐกิจสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ส่งเสริมทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยนำหลัก BCG มาปรับใช้ให้เกิดการพัฒนา “เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ประชาชนมีรายได้ดี คุณภาพชีวิตดี ควบคู่ไปกับการรักษาและฟื้นฟูทรัพยากร จากความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพที่ดี ด้วยการใช้ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ผ่านกลไกของกองทุนฯ
สำหรับความก้าวหน้าของการดำเนินงาน “โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” ใน 2 หมู่บ้าน ของพื้นที่ จ.อุบลฯ ที่ประสบความสำเร็จในด้านการบริหารจัดการกองทุน ประกอบด้วย กองทุนหมู่บ้านไชยชนะ และกองทุนหมู่บ้านนาพิน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง สามารถต่อยอดและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง โดย "กองทุนหมู่บ้านไชยชนะ” เป็นกองทุนที่มีศักยภาพในด้านการบริหารจัดการกองทุนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในหมู่บ้าน ได้รับรางวัลกองทุนหมู่บ้านฯ อันดับที่ 3 ดำเนินโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็น โครงการส่งเสริมการออมและการกู้ยืมเงินออม โครงการปั๊มน้ำมันยอดเหรียญ และโครงการโรงน้ำดื่มชุมชน ทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยพึ่งพาอาศัยระหว่างกันในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง
ขณะที่ “กองทุนนาพิน” ที่ได้รับรางวัลกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่างอันดับที่ 1 เป็นกองทุนที่ดำเนินกิจการในรูปแบบ สถาบันการเงินชุมชน โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เป็นผู้สนับสนุนการวางระบบในการบริหารธุรกิจภายในชุมชน ทั้งในด้านการเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสังฆภัณฑ์ เป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อ ส่วนการดำเนินการโครงการโรงน้ำดื่ม บรรจุขวด อยู่ระหว่างการขอใบรับรองจากสำนักงานอาหารและยา (อย.) และยังได้ดำเนินติดตั้งโครงการตู้น้ำดื่มยอดเหรียญ เพื่อให้บริการน้ำดื่มสะอาดกับชุมชน เป็นการช่วยส่งเสริมสุขอนามัยได้อีกทางหนึ่ง
นายอนุชา กล่าวย้ำ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยความสามารถ ประสบการณ์ และอุดมการณ์ที่จะทำประโยชน์เพื่อหมู่บ้าน ชุมชน และสังคม จะสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ ได้ประสบความสำเร็จ ขอให้สมาชิกมีวินัย วินัยที่ดีเริ่มจากตัวเรา เมื่อมีวินัยจะช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ตนเองพร้อมที่จะช่วยผลักดันให้สมาชิกฯ หลุดพ้นจากหนี้ จากความยากจน ลืมตาอ้าปากได้ พร้อมส่งเสริมสนับสนุนให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบรื่น บรรลุเป้าหมายตามที่ได้กำหนดไว้ และขอให้รักษาความร่วมมือร่วมใจ เพื่อเป็นพลังเป็นแรงผลักดันกองทุนหมู่บ้านให้ก้าวหน้าต่อไป
ภาพจาก สำนักโฆษก สำนักนายกรัฐมนตรี