TNN ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด

TNN

ภูมิภาค

ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด

ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด

อดีตนักร้องลูกทุ่งดังยุค 80 “รักชาติ ศิริชัย” เจ้าตำรับเพลง “ฉันทนาที่รัก” ที่เคยโด่งดังในอดีตผันตัวขายลาบ-ก้อยสู้ชีวิตยุคโควิด พ่อยก-แม่ยก ฮือฮาแห่อุดหนุน

วันนี้ ( 24 ธ.ค. 64 )ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีพ่อค้าขายลาบก้อยรายหนึ่ง ที่ตลาดสดเทศบาลกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทั้งลาบก้อยไปด้วยและร้องเพลงไปด้วย  สร้างความสนุกสนาน คลายเครียด ให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่แผงใกล้กัน รวมทั้งประชาชนที่เข้ามาเลือกซื้ออาหาร ต้องหยุดฟังเพลงด้วยความสนใจ หลายคนกระซิบกระซาบกันว่าบุคลิกและน้ำเสียง เหมือนนักร้องมืออาชีพ โดยสุ้มเสียงของพ่อค้าขายลาบก้อยรายนี้ฟังออดอ้อน หวานหยดย้อย ซึ่งเพลงที่เขานำมาร้องนั้นเป็นเพลงลุกทุ่งยุคเก่า ที่หาฟังยาก แต่เมื่อได้ยินแล้วประทับใจ จนอดใจไม่ได้ที่จะหยุดฟังและขอเพลงขณะยืนรอเมนูลาบก้อย  ถือเป็นรูปแบบการขายและวิธีการเรียกลูกค้าอีกแบบหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปสังเกตการณ์  พบชายคนดังกล่าว ตั้งแผงขายอาหารอีสานประเภทลาบ ก้อย และต้มเนื้อวัว ที่ตลาดสดเทศบาลตำบลกมลาไสย หรือตลาดเย็น บริเวณมุมทางออก 4 แยกไฟแดง ซึ่งมีลูกค้ายืนรอและรับฟังเพลงที่เขาร้องคลอไปด้วยขณะทำการปรุงอาหารให้กับลูกค้าที่ยืนรอ โดยเพลงที่เขานำมาขับร้องขณะประกอบการปรุงอาหารนั้น เป็นบทเพลงลูกทุ่ง ที่เคยโด่งดังมากในยุค 80 หรือราวปี  2520-2530 เช่นเพลง “ฉันทนาที่รัก” “รักข้ามคลอง”  “ฉันทนาใจดำ” “สุขเถิดบัวคำ” ซึ่งรูปร่างหน้าตา โดยเฉพาะเสียงที่เขาขับขานออกมานั้น เหมือนอดีตนักร้องดังชื่อ “รักชาติ ศิริชัย” มาก

ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด

จากการสอบถามพ่อค้าขายลาบก้อย ยืนยันว่าตนคือ  “รักชาติ ศิริชัย” ตัวจริง เสียงจริง ปัจจุบัน อายุ 66 ปี สาเหตุที่มาตั้งแผงขายลาบก้อยที่นี่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้งานร้องเพลงที่เคยเป็นอาชีพหลักต้องหยุดไป 

โดยรักชาติ กล่าวว่า หลังจากยุคเพลงลูกทุ่งลดความนิยมลง ตนก็ยังรับงานอยู่ เช่น ตามร้านอาหาร งานมงคล งานสังคมต่างๆ พอเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบกับคนในวงการบันเทิง และร้านค้าร้านอาหารที่เคยไปรับงานร้องเพลง ตนได้เปิดร้านขายอาหารตามสั่งหลายแห่ง ล่าสุดที่กรุงเทพฯ แต่ก็ไปไม่รอด พอดีมีคนที่รู้จักรักใคร่กันดี ชักชวนมาทำธุรกิจขายปุ๋ยและพันธุ์ข้าว ที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงใช้เวลาว่างมาขายลาบก้อยที่นี่ โดยมีภรรยาและลูกชายช่วยกันขาย โดยเช้าช่วงเวลา 06.00-08.00 น.จะขายที่หน้าบ้าน ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย ตอนเย็นมาขายที่แผงตลาดสดเทศบาลตำบลกมลาไสย ปรากฏว่าได้รับการอุดหนุนจากลูกค้าค่อนข้างดี ก็ต้องขอกราบขอบคุณลูกค้า และมิตรรักแฟนเพลงเป็นอย่างมากที่จำกันได้ และมาช่วยอุดหนุนลาบก้อย ในอนาคตหากบรรยากาศการค้าขายดีขึ้น อาจจะเปิดร้านชื่อ “รักชาติลาบก้อย” และสำหรับการร้องเพลง ซึ่งเป็นอาชีพที่ตนรัก ก็ยังอยากจะร้องอยู่ หากเจ้าภาพท่านใดมีงาน อยากได้รักชาติ ศิริชัย ตัวจริง เสียงจริง ไปขับกล่อมในงาน ก็สามารถมาติดต่อได้ ราคาเป็นกันเอง

ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด

ทั้งนี้ รักชาติ ศิริชัย ชื่อจริงนายบุญช่วย จิวิสาย บ้านเดิมบ้านหนองมะเขือ ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด (เดิม อ.บ้านไผ่) จ.ขอนแก่น เริ่มจับไมค์ร้องเพลงครั้งแรกในงานแต่งงานงานหนึ่ง จากนั้นก็ตะเวนประกวดร้องเพลงในพื้นที่ใกล้เคียง และก็ชนะเป็นส่วนใหญ่ ช่วงหลังๆจึงมักได้รับการปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมประกวดจากกองประกวด จึงไปสมัครเป็นนักร้องกับวงดนตรี "จุฬาภรณ์" ที่ จ.มหาสารคาม แต่วงอยู่ได้แค่ 2 เดือนก็หยุด 

ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของคนในวงการ รักชาติได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิต เป็นเพลงของครูชลธี ธารทอง ชื่อ "จดหมายฉบับสุดท้าย" แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเดินทางกลับบ้านและบวช 1 พรรษา ระหว่างนั้นมีเพื่อนมาพูดคุยเรื่องการเป็นนักร้องที่กรุงเทพฯ หลังจากลาสิขาออกมาจึงตัดสินใจลงไปกรุงเทพ หวังจะไปสมัครเป็นนักร้องกับวง “รุ่งเพชร แหลมสิงห์” ที่เขายึดเป็นนักร้องต้นแบบ แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางถึงเห็นมีการประกาศขายรถบัสเดินสายของวง "รุ่งเพชร" ทำเอารักชาติรู้สึกผิดหวัง และคิดหาหนทางใหม่

ในที่สุดรักชาติก็ไปอยู่กับวงดนตรี “ศรีไพร ลูกราชบุรี” จึงมีโอกาสได้ร้องเพลงหน้าเวทีบ้าง ต่อมาเมื่อวงมาเดินสายอยู่แถวภาคเหนือ รักชาติได้ไปพบสุชาติ เทียนทอง นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังในยุคนั้น เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ซึ่งสุชาติก็รับเขาและแต่งเพลงให้ร้องหลายเพลง นอกจากนี้ยังพารักชาติเข้าห้องอัดเสียงด้วย 

รักชาติร้องเพลงของสุชาติหลายเพลง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงเพลงที่ 8 เพลงสุดท้ายที่ตกลงกับสุชาติว่า ถ้าไม่ประสบความสำเร็จอีกก็คงต้องล้มเลิกการผลักดัน และเพลงสุดท้ายที่ทำให้รักชาติโด่งดังเป็นพลุแตก คือเพลง "ฉันทนาที่รัก" ซึ่งเป็นเพลงยุคแรกๆที่กล่าวถึงชีวิตของสาวโรงงาน จากความสำเร็จของเพลง "ฉันทนาที่รัก" รักชาติ ยิ่งทวีความดังมากขึ้นไปอีกจากผลงานเพลงสุดฮิต อย่าง "รักข้ามคลอง" "ฉันทนาใจดำ" และ “สุขเถิดบัวคำ” ความดังของเพลงฉันทนาที่รัก ทำให้คำว่า “ฉันทนา” ถูกใช้แทนความหมายของเหล่าบรรดาสาวโรงงานจนถึงปัจจุบัน


ฮือฮา! เจ้าของเพลงดัง “ฉันทนาที่รัก-รักข้ามคลอง” ผันตัวขายลาบ-ก้อย สู้โควิด



ข้อมูลจาก :  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.กาฬสินธุ์

ภาพจาก :  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจ.กาฬสินธุ์

ข่าวแนะนำ