'นิวคาสเซิล' ลุยตลาดหน้าหนาว 'เอ็ดดี้ ฮาว' เตรียมเสริมทัพแข้งใหม่

โดยชัยชนะนัดแรกและนัดเดียวในเวลานี้ของ เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ นิวคาสเซิ่ล คือการพาทัพ สาลิกาดง เปิดบ้านเอาชนะทีมโซนตกชั้นด้วยกันอย่าง เบิร์นลีย์ 1-0 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา  นั่นนับเป็นชัยชนะครั้งแรกในลีกซีซั่นนี้ และเป็นการชนะเกมลีกนัดครั้งแรกในรอบ 15 เกมของ นิวคาสเซิล ด้วย

แต่พอ 3 นัดให้หลังพวกเขาพ่ายรัวๆให้กับ เลสเตอร์ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียไป 11 ลูกและยิงไปเพียงแค่ลูกเดียว ทำให้ถึงตอนนี้ นิวคาสเซิ่ล อยู่อันดับ 19 ของตาราง แถมเสียประตูเยอะสุดในลีกถึง 41 ประตู ในขณะที่โปรแกรมนัดต่อไปๆ หากยึดโปรแกรมเดิมก็ต้องยอมรับว่าหนักหนาสาหัสทั้งนั้น มีเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอฟเวอร์ตัน และ เซาธ์แฮมป์ตัน รออยู่ในช่วง บ็อกซิ่งเดย์ 

สมมติว่า นิวคาสเซิ่ล มีอันต้องตกชั้นลงสู่ เดอะ แชมเปี้ยนสชิพ อังกฤษ จริงๆ เงินมหาศาลของพวกเขามันก็อาจจะไม่ช่วยอะไร เพราะว่าบรรดานักเตะฝีเท้าดี แม้จริงอยู่ที่พวกเขานั้นหิวเงิน แต่ก็คงไม่มีอยากลดโปรไฟล์ลงไปเล่นในลีกรองของแดนผู้ดีอย่างแน่นอน

ดังนั้นเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ตั้งแต่ช่วงปีใหม่นี้เป็นต้นไป ณ ตอนนี้ "สาลิกาดง" กลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม การวาดฝันที่จะดึงแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ตัวท็อปของโลกอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้, ปอล ป็อกบา, ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาร่วมทีม คงเป็นเรื่องเกินจริงไปหน่อย

อย่างไรก็ตามหากมองไปที่ผู้เล่นเกรดรองลงมา ที่ราคาไม่ได้แพงมาก ก็มีอยู่เต็มตลาดไปหมด ดังนั้่นเชื่อว่าแฟน สาลิกาดง ทั้งหลายตั้งนับถอยหลังรอวันเปิดตลาด เผื่อที่เปิดโอกาสให้ทีมรักจับจ่ายใช้สอย ดึงแข้งฝีเท้าดีเข้ามาซัพพอร์ท เอ็ดดี้ ฮาว ซึ่งเหล่านักเตะที่ตกเป็นข่าวกับ นิวคาสเซิ่ล ก็มีหลายคน แต่ขอยกตัวท็อปๆมาเป็นตัวอย่างที่มีความเป็นไปได้ในช่วงปีใหม่นี้ก่อน

- ดูซาน วลาโฮวิช (ฟิออเรนติน่า)

สื่ออิตาเลี่ยนรายงานว่า นิวคาสเซิล ยื่นข้อเสนอจำนวน 100 ล้านยูโร ทาบทาม ดูซาน วลาโฮวิช ศูนย์หน้าวัย 21 ปีของ ฟิออเรนติน่า มาร่วมทีมในช่วงปีใหม่นี้ วลาโฮวิช เหลือสัญญาถึงปี 2023 เท่านั้น และการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อสรุป จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ทาง ฟิออเรนตินา จำเป็นต้องปล่อยนักเตะออกไปภายในช่วงซัมเมอร์หน้า ดังนั้นหากต้องการขายแบบได้ราคาก็ต้องขายให้กับเศรษฐีใหม่อย่าง นิวคาสเซิ่ล นี่แหละ

- มิลาน สคริเนียร์ (อินเตอร์ มิลาน)

สคริเนียร์ มีข่าวเกี่ยวโยงกับหลายสโมสรในเวที พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดังนั้นก็มีโอกาสที่เจ้าตัวอาจจะได้ย้ายมาลุย พรีเมียร์ลีก จริงๆ เพราะ อินเตอร์ มักเลือกทำเงินจากการขายนักเตะเพื่อพยุงสถานะทางการเงินขของสโมสร แถมแข้งวัย 26 ปี ก็เหลือสัญญาถึงปี 2023 เท่านั้น ดังนั้น นิวคาสเซิ่ล น่าจะใช้โอกาสนี้ดึง แข้งทีมชาติสโลวาเกีย เพื่อนร่วมชาติของ มาร์ติน ดูบราฟก้า มาร่วมทีม

- เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (อินเตอร์ มิลาน)

เลาตาโร่ มีอนาคตในถิ่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ที่ไม่แน่นอน โดยมีข่าวเกี่ยวโยงกับ บาร์เซโลน่า ตลอด แต่ด้วยสถานะทางการเงินของสโมสรตอนนี้เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นสโมสรมหาเศรษฐีป้ายแดงอย่าง นิวคาสเซิ่ล น่าจะใช้โอกาสนี้เอาใจสาวก "ทูน อาร์มี่" ด้วยทาบทามดาวยิงทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 24 ปี มาเสริมทัพ

- อารอน แรมซี่ย์ 

รายแรก อารอน แรมซี่ย์ ไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นแกนหลักของทีมได้เลย แต่รับค่าเหนื่อยมหาศาลถึงสัปดาห์ละ 400,000 ปอนด์ทำให้ "ม้าลาย" เริ่มคิดที่จะโละเจ้าตัวพ้นทีม และเชื่อกันว่าจุดหมายปลายทางต่อไปของ แรมซีย์ คงหนีไม่พ้นการคัมแบ็กสู่เวที พรีเมียร์ลีก 

 

- ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (บาร์เซโลน่า)

คูตี้ ล้มเหลวกับ บาร์เซโลน่า เพราะเจอทั้งปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นและอาการบาดเจ็บรุมเร้า โดยเชื่อกันว่า เจ้าตัว คิดที่จะย้ายกลับไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ท่ามกลางข่าวกับ อาร์เซนอล ส่วนอีกหนึ่งทีมที่เอเย่นต์ไม่พลาดที่จะยื่นโปรไฟล์ก็คงไม่พ้น นิวคาสเซิ่ล โดยทัพ สาลิกาดง น่าจะเป็นทีมที่เหมาะกับ ดาวเตะวัย 29 ปี ไม่น้อย

- เอดิน เชโก้ (อินเตอร์ มิลาน)

ด้วยความสัมพันธ์อันดีที่กลุ่มทุน PIF มีต่อสโมสรอินเตอร์ มิลาน ในอิตาลี การผ่องถ่ายนักซึ่งกันและกันจึงมีความเป็นไปได้อย่างที่ข่าวล่าสุดที่ระบุว่า สาลิกาดง พร้อมทาบทาม เอดิน เชโก้ ดาวยิงบอสเนียกลับมาถล่มประตูในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่หากต้องเสีย เลาตาโร่ ออกจากทีม อินเตอร์ ก็อาจจำเป็นต้องเก็บ เชโก้ ไว้ใช้งานต่อไป

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งสิ่งที่แฟนๆต่างเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดก็คือเม็ดเงินการลงทุนในตลาดซื้อขายรอบแรกของเจ้าของใหม่ ว่าจะซื้อใจแฟน สาลิกาดง ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะว่าตอนนี้สถานการณ์ในตารางคะแนนของพวกเขาไม่สู้ดีเอาเสียเลย

ดังนั้นการเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวรอบที่จะถึงนี้ มันคือการเดิมพันครั้งสำคัญกับอนาคตของสโมสร นิวคาสเซิล ว่าจะต้องไปเริ่มนับหนึ่งเป็นเศรษฐีใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ หรือว่าจะ ต่อยอดเป็นเศรษฐีใหม่ว่าที่ยักษ์ใหญ่ ของศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของใหม่ว่าจะ ใจถึงพึ่งได้ ขนาดไหน ในการสร้างอาณาจักรใหม่ให้ นิวคาสเซิล