สรุปข่าว
เกมนี้ ทัพเจ้าป่า อาศัยวินัยเกมรับที่เหนียวแน่น เฉือนเอาชนะ หงส์แดง ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 จากลูกยิงของ ไตโว อโวนิยี่ ถือเป็นชัยชนะที่สำคัญ หยุดสถิติอันเลวร้ายที่ไม่ชนะใครมแล้วในพรีเมียร์ลีก 9 เกมติดต่อกัน ได้สำเร็จ โดยชัยชนะต้องย้อนไปเมื่อเกมแรกที่ลงเล่นกับ เวสต์แฮม ด้วยสกอร์ 1-0 เช่นกัน
หลังจากที่ได้ชมเกมทาง TNN Sports ได้นำ 4 ประเด็นมาวิเคราะห์ดังนี้
ประเด็นแรก : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โอกาสน้อยมาก
เกมนี้ ซาลาห์ ทำผลงานอย่างน่าผิดหวังไม่สามารถยิงประตูช่วยทีมได้ โดยในเกมมีโอกาสยิงแค่เพียง 3 ครั้งเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็ยิงได้ไม่ดีพอที่จะลุ้นเป็นประตูด้วย เกมนี้เขาถูกจับให้ไปเล่นเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า โดย คล็อปป์ ให้ ฟีร์มีโน่ วิ่งออกมารับบอลในฝั่งขวาและเป็นคนเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษนั่นเอง ถึงแม้ลิเวอร์พูล จะมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลที่เหนือกว่ามาก แต่จังหวะสุดท้ายบอลไปไม่ถึง โม ซาลาห์ นั่นจึงทำให้เขาไม่สามารถปิดสกอร์ให้กับทีมได้นั่นเอง
ประเด็นที่สอง : ฟอเรสต์ ฉวยโอกาสได้ดี
เกมนี้ ลิเวอร์พูล สามารถครองบอลครองเกมไว้ได้ตลอด แต่ทว่าไม่สามารถยิงประตูได้ในจังหวะสุดท้าย และฟอเรสต์ อาศัยความอดทนในเก็บรับและมีจังหวะโต้กลับเป็นครั้งคราว และพอมีโอกาสได้ยิงพวกเขาก็ทำได้สำเร็จ โดยไม่ทิ้งโอกาสทองหลุดลอยสามารถยิงประตูปิดเกม และหลังจากนั้น สตีฟ คูเปอร์ ก็เปลี่ยนแท็คติก เสริมเกมรับลงมาในช่วงท้ายของครึ่งหลัง และก็สามารถรักษาสกอร์เอาไว้ได้
ประเด็นที่สาม : ผู้เล่นที่ขาดหายไปของ ลิเวอร์พูล
ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่โชคไม่เข้าข้างในเรื่องของอาการบาดเจ็บของผู้เล่นเลยสำหรับฤดูกาลนี้ ก่อนเกมจะเริ่ม คล็อปป์ ตัดสินใจถอดชื่อของ ดาร์วิน นูนเญซ และ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ออกจากทีม เนื่องจากผู้เล่นทั้งสองคนไม่พร้อมลงสนามและมีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนภายในเกมก็มีช็อตที่ โม ซาลาห์ บาดเจ็บสะโพก และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ที่บาดเจ็บบริเวณข้อเท้า จนทำให้ทีมแพท์ต้องเข้ามาดูอาการ แต่ก็สามารถเล่นต่อจนจบเกมได้ ต้องมาลุ้นกันว่าทั้งสองคนจะมีอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมหรือไม่
ประเด็นที่สี่ : ซูเปอร์เซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน
ต้องบอกว่า เฮนเดอร์สัน เป็นผู้เล่นคนสำคัญอีกคนที่ช่วยให้ ทัพเจ้าป่า ได้ 3 คะแนนไปในค่ำคืนนี้ ในช่วงต้นเกมเขาออกแรงเซฟลูกยิงจ่อๆ ของ คาร์วัลโญ่ ที่หลุดแผงแนวรับขึ้นมา หลังจากนั้นในช่วงท้ายครึ่งหลังงานของ เฮนเดอร์สัน มาอย่างต่อเนื่องและจังหวะที่ต้องชื่นชมเลยคือจังหวะที่ เซฟลูกโหม่งของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแล้ว เรียกได้ว่าควักบอลออกจากเส้นประตูกันเลยทีเดียว ความยอดเยี่ยมในนัดนี้ของผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ เขาเซฟช่วยทีมไปได้ทั้งหมด 7 ครั้ง
ที่มาข้อมูล : -