TNN online เปิดประวัติ 'โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้' แบ็คซ้ายสายสปีดที่กำลังทุกข์มากๆในเวลานี้

TNN ONLINE

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เปิดประวัติ 'โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้' แบ็คซ้ายสายสปีดที่กำลังทุกข์มากๆในเวลานี้

เปิดประวัติ 'โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้' แบ็คซ้ายสายสปีดที่กำลังทุกข์มากๆในเวลานี้

ตรวจโปรไฟล์ EP.16 ทีมข่าว TNNSPORTS พาไปทำความรู้จัก เช็กข้อมูลส่วนตัวของ โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็คซ้ายตัวสปีดของแมนฯซิตี้ ที่กำลังระทมทุกข์กับสงคราม รัสเซีย-ยูเครน แบบหนักหน่วงเวลานี้

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : โอเล็คซานเดอร์ โวโลดีมีโรวิช ซินเชนโก้

เกิดวันที่ 15 ธ.ค. 1996

อายุ 25 ปี

เกิดที่ ราดอมเมียร์ก , ประเทศยูเครน

ส่วนสูง 175 เซนติเมตร


โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนเก้ นักฟุตบอลฝีเท้าดีชาวยูเครน เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาที่กำลังมีความเศร้าหมองไม่น้อยไปกว่าใครบนโลกนี้ หลังบ้านเกิดกำลังทำสงครามกับรัสเซียมายาวนานครึ่งเดือนแล้ว วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกับแบ็คซ้ายจอมบุกคนนี้กันว่าเขาเป็นใคร ? มาจากไหน ? 

เปิดประวัติ 'โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้' แบ็คซ้ายสายสปีดที่กำลังทุกข์มากๆในเวลานี้

โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ หรือชื่อเต็มๆ คือ โอเล็คซานเดอร์ โวโลดีมีโรวิช ซินเชนโก้ เกิดวันที่ 15 ธันวาคม ปี 1996 ที่ ราดอมเมียร์ก ประเทศยูเครน ปัจจุบันอายุ 25 ปี ส่วนสูง 175 เซนติเมตร หรือ 5 ฟุต 9 นิ้ว เป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย ปัจจุบันสังกัดอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สวมเสื้อเบอร์ 11 เขาเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งจากการเป็นผลผลิตในระดับเยาวชนของโรงเรียน สปอริตเว่ คาร์ปาติย่า ในบ้านเกิดที่ ราดอมเมียร์ก ตอนปี 2004 ก่อนจะได้โอกาสย้ายไปอยู่กับ โมโนลิต อิลลิชิฟส์ และ กับ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ในช่วงปี 2008-14 ถึงจะได้โอกาสปลุกปั้นตัวเองกับทีมยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ของ ยูเครน แต่ทาง โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็ไม่เคยได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว


เขาย้ายไปอยู่กับครอบครัวที่ รัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามใน ดอนบาส ถึง ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค จะต้องการให้ตัวเขากลับไป แต่ด้วยเรื่องของชีวิตและความปลอดภัยจึงตอบปฏิเสธไป โดย ซินเชนโก้ ได้ใช้เวลา 5-6 เดือนในการค้าแข้งบนลีกสมัครเล่นที่ มอสโก ก่อนจะได้โอกาสไปทดสอบฝีเท้ากับ รูบิน คาซาน แต่การเซ็นสัญญาไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะเจ้าตัวยังมีสัญญาอยู่กับ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค แต่ท้ายที่สุด ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ก็จำใจต้องปล่อย โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ให้กับ อูฟ่า ทีมใน รัสเซีย ช่วงต้นปี 2015 พร้อมกับได้โอกาสประเดิมสนามบนเวที พรีเมียร์ลีก รัสเซีย นัดที่เจอกับ คราสโนดาร์ ส่วนประตูแรกในสีเสื้อ อูฟ่า นั้นเกิดขึ้นในวันที่ 25 กรกฏาคม ปี 2015 ในเกมที่แพ้ รอสตอฟ 1-2 เบ็ดเสร็จตลอดช่วงเวลา 1 ปีครึ่งที่ เบ็ตบูม อารีน่า ทางโอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 33 นัด ยิงได้ 2 ประตู


กระทั่งซัมเมอร์ปี 2016 โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้เซ็นสัญญาย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเซอร์ไพรส์ ท่ามกลางความงุนงงของเหล่าบรรดาแฟนบอลว่า "เขาคือใครกัน ?" แต่ทางแมวมองของรัสเซียได้ยกย่องนักเตะคนนี้ว่าเป็นแข้งมากพรสวรรค์ และตอนนั้นทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เองก็ให้ความสนใจเช่นกัน


ช่วงฤดูกาลแรกกับชีวิต เอติฮัด สเตเดี้ยม ทาง โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ นั้นถูกปล่อยตัวไปเล่นกับกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในรูปแบบยืมตัว ได้โอกาสลงเล่นทั้งกับทีมชุดใหญ่และชุดเยาวชน ก่อนจะกลับมาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาล 2017-18 และได้ประเดิมสนามนัดแรกในเกม คาราบาว คัพ ที่เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ลงเล่นเต็มๆ 120 นาที ส่วนในเวทีระดับ พรีเมียร์ลีก พี่แกได้โอกาสครั้งแรกก็คือวันที่ 13 ธันวาคม ปี 2017 นัดที่บุกไปถล่ม สวอนซี ซิตี้ 4-0 เขาได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องในช่วงนั้นเนื่องจาก เบนจาแมง เมนดี้ กับ ฟาเบียน เดลฟ์ เจ้าของตำแหน่งแบ็คซ้ายมีปัญหาอาการบาดเจ็บ


ตลอดช่วง 5 ปีกับ แมนฯ ซิตี้ เขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 115 เกม ยิงได้ 2 ประตู บทบาทส่วนใหญ่ของเขาอาจะเป็นตัวอะไหล่สำรอง แต่ทุกครั้งที่ลงสนามก็มักทำผลงานได้ดีเสมอๆ โดยปี 2019 ซินเชนโก้ ได้ตกลงต่อสัญญาใหม่ออกไปถึงปี 2024 ก่อนจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักที่หัวเข่าส่งผลให้ต้องพักไปราวๆ 2 เดือนเลยทีเดียว จากนั้นเขาเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญที่ช่วยพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ต่อมาก็ได้ลงเป็นตัวจริงด้วยในรอบชิงชนะเลิศ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายเจ้าตัวต้องผิดหวัง เพราะต้องพ่ายให้กับ เชลซี ไป 0-1 


โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย แต่ในขณะเดียวกันพี่แกก็เป็นผู้เล่นที่มากกว่าฟูลแบ็ก เพราะพี่แกนั้นสามารถโยกไปเล่นเป็นปีกก็ได้เหมือนกัน เพราะเป็นผู้เล่นที่มีทักษะการเติมเกมบุกที่ดีและมันส์สะใจ มีความคล่องตัวสูงยามไปกับบอล วิสัยทัศน์ดี และด้วยทักษะการขับเคลื่อนเกมและสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนๆ หารู้ไหมว่าไอ้หมอนี่สามารถขยับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกได้อีกด้วย แต่บทบาทนี้เขาจะได้รับส่วนใหญ่ก็ต่อเมื่อได้ลงเล่นให้ ทีมชาติยูเครน


ทีมชาติยูเครน

โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้โอกาสเป็นตัวแทนของ ยูเครน ตั้งแต่ปี 2011 กับชุด ยู-16 ปี ก่อนที่อีกราวๆ 3 ปีจะค่อยๆ ไต่ขึ้นมาเล่นให้ชุด ยู-16, ยู-17, ยู-19, ยู-19 และ ยู-21 ตามลำดับ โดยโอกาสกับ ยูเครน ชุดใหญ่นั้นเกิดขึ้นในปี 2015 ซึ่งเป็นเกม ยูโร 2016 รอบคัดเลือกที่เจอกับ สเปน จากนั้นพี่แกก็ได้สร้างสถิติเป็นผู้เล่น ยูเครน ที่อายุน้อยสุดที่ทำประตูให้ทีมชาติที่อายุ 19 ปีกับอีก 165 วัน ทำลายสถิติเดิมของ อังเดร เชฟเชนโก้ ที่ทำไว้เมื่อปี 1996 โดยประตูเปิดซิงนั้นเกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่องที่เจอกับ โรมาเนีย เมื่อปี 2016


นับตั้งแต่นั้น โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็กลายเป็นตัวหลักของ ยูเครน นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ได้ลงเล่นทั้งในศึก ยูโร 2016 และ ยูโร 2020 รอบสุดท้ายด้วย ผลงานของเขาโดดเด่นมากๆ โดยเฉพาะในเกมที่เอาชนะ สวีเดน 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วเพราะนี่คือผู้เล่นที่มีส่วนกับ 2 ประตูที่เกิดขึ้นทั้งยิง 1 จ่าย 1


หากย้อนเวลากลับไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ปี 2021 โอเล็คซานดอร์ ซินเชนโก้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมของ ยูเครน พร้อมกับสร้างสถิติเป็น กัปตันของ ยูเครน ที่อายุน้อยสุดบนหน้าประวัติศาสตร์ที่ 24 ปี กับอีก 98 วัน เบ็ดเสร็จตอนนี้ โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้โอกาสติดธง ทีมชาติยูเครน ไปทั้งหมด 48 นัด ยิงได้ 8 ประตู


สงครามยูเครน-รัสเซีย

เปิดประวัติ 'โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้' แบ็คซ้ายสายสปีดที่กำลังทุกข์มากๆในเวลานี้ ชื่อของ โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ กำลังถูกพูดกันอย่างมากในโลกโซเชี่ยล เพราะพี่แกเป็นนักเตะคนแรกที่ออกมาแสดงความคิดถึงเรื่องสงครามระหว่าง ยูเครน และ รัสเซีย ซึ่งล่าสุดทางฝั่ง วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำแห่งแดนหมีขาวก็ได้เปิดศึกส่งกองกำลังนับหมื่นนายเข้าไปโจมตี ยูเครน แล้วและก็มีเสียชีวิตนับร้อยคน


ตั้งแต่วัยเด็ก โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็เคยเจอกับสงครามมาแล้วในชื่อ "วอร์ ออฟ ดอนบาส" และนั่นก็ทำให้เขาต้องอพยพย้ายจาก ยูเครน ไปอยู่ใน รัสเซีย พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอยู่เฉยไม่ได้ก่อนจะโพสต์รูปของ วลาดิเมียร์ ปูติน ลงในโลกโซเชี่ยล พร้อมกับเขียนข้อความสาปแช่งว่า "กูหวังว่ามะจะตายในแบบที่ทรมานมากที่สุดนะ ไอ้ชาติชั่ว" ก่อนที่โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบไปในเวลาต่อมา


จากนั้นก็มีนักเตะที่มากหน้าหลายคนเริ่มทยอยแสดงความคิดเห็นกับเรื่องดังกล่าวแบบพร้อมใจกันว่า "ไม่เอาสงคราม ! ประชากรโลกกำลังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศของผ นี่คือประเทศของผม ประเทศที่ผมเกิดและเติบโตขึ้นมา ประเทศที่เป็นเจ้าของสีที่ผมปกป้องในสนามกีฬาแห่งชาติ ประเทศที่เราพยายามจะพัฒนาและทำให้ยิ่งใหญ่ ประเทศที่พรมแดนของเราไม่อาจละเมิดได้ ประเทศของผมเป็นของคนยูเคตร และไม่มีใครจะมายึดครองได้ เราจะไม่ยอมแพ้ ยูเครนจงเจริญ"


เกียรติประวัติ (แชมป์)

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

พรีเมียร์ลีก 2017-18 , 2018-19 , 2020-21

เอฟเอ คัพ 2018-19

ลีกคัพ 2017–18 , 2018–19 , 2019–20 , 2020–21


เกียรติประวัติ (ส่วนตัว)

นักฟุตบอลแห่งปียูเครน ประจำปี 2019


ภาพจาก : AFP

ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก : Hamu Dos Santos

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง