เปิดประวัติ 'ซน ฮึง มิน' ซูเปอร์สตาร์เอเชีย บนเวทีพรีเมียร์ลีก
ตรวจโปรไฟล์ EP.15 ทีมข่าว TNNSPORTS พาไปทำความรู้จัก เช็กข้อมูลส่วนตัวของ ซน ฮึง-มิน กองหน้าชาวเกาหลีใต้ ที่พิสูจน์ตัวเองจนกลายเป็นนักเตะระดับโลกบนเวทีพรีเมียร์ลีก
ข้อมูลนักเตะ
ชื่อ : ซน ฮึง-มิน
เกิด : 8 กรกฏาคม 1992 ที่เมืองกังวอน ประเทศเกาหลีใต้
อายุ : 30 ปี
สัญชาติ : เกาหลีใต้
ตำแหน่ง : กองหน้า/ปีก
ส่วนสูง : 183 เซนติเมตร
ซน ฮึง-มิน นักเตะชาเกาหลีใต้ เป็นลูกชายของ ซน วูง-จัง เป็นอดีตนักฟุตบอล ที่ค้าแข้งในช่วงยุค 80s ผ่านการค้าแข้งให้กับหลายสโมสร ในเกาหลีใต้ รวมถึงเคยติดทีมชาติ เกาหลีใต้ชุดบีอีกด้วย เมื่อเขามีลูกชาย ซนผู้พ่อจึงตั้งตนเป็นอาจารย์คนแรก สอนวิชาฟุตบอล ให้กับลูกชาย ด้วยประสบการณ์ ในฐานะอดีตกองหน้า ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมที่เข้มข้น ตามแบบฉบับเกาหลีใต้
"พ่อผมมีบททดสอบเยอะมาก" ซน ฮึง มิน กล่าว "เขาให้ผมเดาะบอล 4 ชั่วโมง ติดต่อกัน ห้ามตกพื้นเด็ดขาด ผมจำได้แม่นตอนเข้าสู่ชั่วโมงที่ 3 ผมเห็นลูกบอล เป็นสามลูก ผมเห็นพื้นเป็นสีแดง เพราะเลือดออกในดวงตา"
"ถ้าผมแสดงอาการเหนื่อยล้า ให้เขาเห็น เขาจะโกรธมาก ๆ เลย" ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันหนักแน่นว่า สามารถเดาะบอลต่อเนื่อง 4 ชั่วโมงโดยที่ไม่ตกพื้นได้จริง ๆ
โดย ซน เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเข้าสู่อะคาเดมี่ของสโมสร เอฟซี โซล ก่อนจะได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ฮัมบูร์ก สโมสรดังของเยอรมนี ตอนอายุ 16 ปี ผ่านโปรเจคต์ Korean FA Youth Project ซึ่งเป็นโครงการที่สมาคมลูกหนังเกาหลีใต้สนับสนุนดาวรุ่งฝีเท้าดีให้ออกไปเรียนและฝึกทักษะลูกหนังกับสโมสรชั้นนำของยุโรป
ซน ฮึง-มิน พัฒนาฝีเท้ากับฮัมบูร์กอย่างโดดเด่น และได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี พร้อมกับได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของฮัมบูร์กทันที ก่อนจะยิงประตูแรกได้ในเกมที่พบกับ โคโลญจน์ ในวันที่ 30 ต.ค. 2010 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของฮัมบูร์กที่ยิงประตูในบุนเดสลีกาได้ด้วยวัยเพียง 18 ปี 3 เดือน 22 วัน และได้ลงเล่นให้เป็นเวลา 3 ปี โดยลงไปในลีกทั้งหมด 73 นัด ยิงไป 20 ประตู
ซน จึงได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ชุดใหญ่นัดแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2010 ในขณะที่เจ้าตัวเพิ่งอายุ 18 ปีเท่านั้น และมีชื่อติดเป็นหนึ่งในขุนพลโสมขาว มาตลอดนับตั้งแต่นั้นมา
ที่มาภาพ : AFP
จากนั้น เขาได้ย้ายเข้าสู่ทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร และที่นี่เองเมื่อเขาได้พบกับทีมเก่าฮัมบูร์ก และกดแฮตทริกให้เลเวอร์คูเซนเอาชนะไป 3-0 โดยฤดูกาลนั้นเขาลงเล่นทุกรายการรวม 43 นัด ยิงไป 12 ประตู ฤดูกาลต่อมาเขาทำผลงานดีขึ้นเมื่อ ลงไป 42 นัด ยิงไป 17 ประตู ถึงนาทีนี้เขาเนื้อหอมขึ้นเรื่อยๆ
ซน มีส่วนร่วมกับฟุตบอลทัวร์เมนต์ใหญ่กับเกาหลีใต้ทั้ง ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่ง ซน ยิงได้หนึ่งประตูในเกมที่พ่าย แอลจีเรีย 2-4 จากนั้น ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย หัวหอกจากสเปอร์สยิงไป 2 ประตู โดยเฉพาะนัดสุดท้ายรอบแรก ซึ่ง ซน ช่วยยิงหนึ่งเม็ด พาทีมโสมขาวชนะเยอรมนี 2-0 ไปแบบพลิกล็อคช็อกแฟนบอลทั่วโลก
จนในปี 2015 เขาได้เซ็นสัญญามาอยู่กับสเปอร์ส ด้วยค่าตัว 30 ล้านยูโร เป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ และกลายเป็นนักเตะเอเชียที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทุบสถิติเดิมของ ฮิเดโตชิ นากาตะ ที่ย้ายจาก โรม่า ไปยัง ปาร์ม่า ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร เมื่อปี 2001
ในฤดูกาลแรกกับสเปอร์ส กุนซือเมาริซิโอ โปเชตติโน่ มีแผงแนวรุกตัวจริงอย่าง แฮร์รี่ เคน, เอริค ลาเมล่า, เดเล่ อัลลี่ และ คริสเตียน อีริคเซ่น ทำให้ ซน รับบทซูเปอร์ซับเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ซัดไป 8 ลูกในทุกรายการของซีซั่น 2015-2016
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลต่อมา ซน ปรับตัวและยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่นจน โปเชตติโน่ เอ่ยปากชมว่า “เขาเหมือนเป็นคนละคน เขาโตขึ้นและรู้จักลีกนี้มากขึ้น ซึ่งตอนนี้เขาปรับตัวให้เข้ากับทีมได้อย่างสุดวิเศษ” ก่อนที่จะจบซีซั่น 2016-2017 ด้วยผลงานกระหน่ำไปถึง 21 ประตูจากทุกรายการ
หลังจากนั้น ซน โชว์ฟอร์มให้กับสเปอร์สได้อย่างคงเส้นคงวา ผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมมาโดยตลอด การันตีได้จากการคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสเปอร์สมา 2 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว ในซีซั่น 2018/2019, 2019/2020
ทำให้ในปัจจุบัน ซน เป็นกำลังหลักของ สเปอร์ส โดยมี แฮร์รี่ เคน เป็นนักเตะคู่หูรู้ใจกันเป็นอย่างดี โดยทั้งคู่ได้มีส่วนร่วมช่วยกันทำประตูและแอสซิสต์ให้กันแล้ว 36 ครั้ง ถือว่าเป็นสถิติเทียบเท่ากับคู่หูของ เชลซี อย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด และ ดิดิเยร์ ดร็อกบา จนทำให้ ซน ได้รับความสนใจจากบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปอีกด้วย
เกียรติประวัติ
สเปอร์ส :
รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-2019
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสโมสร ฤดูกาล 2018-2019, 2019-2020
ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ก.ย. 2016, เม.ย. 2017, ต.ค. 2020
ประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-2020
ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกของพีเอฟเอ ฤดูกาล 2020-2021
ทีมชาติเกาหลีใต้ :
แชมป์เอเชียน เกมส์ 2018
รองแชมป์เอเชียน คัพ 2015
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย 5 สมัย (2014, 2015, 2017, 2018, 2019)
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเกาหลีใต้ 4 สมัย (2013, 2014, 2017, 2019)