สรุปข่าว
ที่ถ่ายทอดมาในรูปแบบภาพยนตร์ นำแสดงโดยนักแสดงหน้าตาดีมาก ดูแล้วฟินจิกหมอนตามมาก แต่ก็ร้องไห้ตามได้มากเช่นเดียวกัน
เรื่องราวของ โรมิโอ มอนตะคิว (ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ) และ จูเลียต คาปุเล็ต (แคลร์ แคเทอรีน เดนส์) หนุ่มสาวจาก 2 ตระกูล ที่ไม่ถูกกันมาเนินนานแล้ว มีเรื่องทะเลาะกันโดยตลอดโดยไม่มีท่าทีที่จะยุติได้เลย วันหนึ่งโรมิโอได้แอบเข้าไปในงานเต้นรำของฝั่งทางคาปุเล็ตแบบเล่น ๆ และบังเอิญไปเจอลูกสาวของตระกุลคาปุเล็ต โดยที่ตนนั้นยังไม่ทราบว่านั่นคือลูกสาวของตระกูลคู่รักคู่แค้นของตน ทั้งคู่เกิดต้องตาต้องใจและรักกันโดยทันที ทว่าเรื่องราวได้นำพาทั้งสองสู่ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพียงเพราะต่างฝ่ายต่างมาจากสองตระกูลแค้นที่โรมิโออยู่ฝั่งมอนตะคิวและจูเลียตมาจากคาปุเล็ต กระนั้นทั้งคู่ต่างไม่คิดจะเลิกรักต่อกันแม้จะเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม และนับแต่นั้นมาก็เกิดเรื่องโศกนาฏกรรมนำพามาสู่คนทั้งสองตระกูลในท้ายที่สุด
ภาพจากTrueVisions
จากเนื้อหาของวรรณกรรมยังคงมีตามโครงเรื่องเดิม แต่ในหนังจะมีการดัดแปลงเนื้อเรื่องให้ทันสมัยตามเวลาในช่วงนั้น เรื่องทำให้ถูกใจวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น มีฉากบู๊ที่ทันสมัย และเรื่องแสงสี ที่ฉูดฉาดมากขึ้น ดูไปคล้ายๆ ดูละครเวทีเคลื่อนที่
แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปจากหนังเรื่องนี้ คือบทสนทนาที่ยังใช้สำนวนภาษาดั้งเดิมของเชกสเปียร์อยู่แทบทั้งสิ้น ใครที่เคยดูจะรู้เลยว่า บทสนทนาจะไม่ใช่ภาษาที่เราๆ ใช้กัน แต่จะเป็นบทกลอนสละสลวย คงความคลาสสิกเอาไว้ได้อย่างน่าดูชม
เอาว่ามาดูความงามของใบหน้าของพระนางสมัยวัยละอ่อน มาดูบทประพันธ์อมตะ มาฟังบทกลอนอันงดงามของเรื่องนี้ กันอีกครั้ง แล้วจะรู้ว่าทำไม William Shakespeare's Romeo Juliet หรือนิยายรักฉบับ ลีโอนาโด & แคลร์ เดนส์ ทำไมถึงประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
ที่มาข้อมูล : -